แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยและ ส.จุดไฟเผาหญ้าในสวนของตน โดยจุดแล้วดับในร่องสวนทีละร่องไล่กันไปจนถึงร่องที่เกิดเหตุ ต่อมาจำเลยกลับไปก่อนปล่อยให้ส.กับต. ช่วยกันดับไฟที่จุดแล้วไม่ปรากฏว่าการดับไฟที่เหลืออยู่นั้นเกินกำลังของ ส.และต. ที่จะช่วยกันดับได้การที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นภายหลังลุกลามไหม้สวนข้างเคียงเสียหายเกิดจากความประมาทของ ส. ที่ไม่ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอในการดับไฟ หาใช่เกิดจากการกระทำโดยประมาทของจำเลยไม่จำเลยจึงไม่มีความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกจุดไฟเผาหญ้าในที่ดินของจำเลยและไม่ดูแลดับไฟที่จุดขึ้นให้ดับสนิทก่อน เป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้และลามไปในสวนของนายโอภาส สมสกุล เสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225
ระหว่างพิจารณานายโอภาส สมสกุล ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 225 จำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยและนางสมบัติค่อย ๆจุดไฟในแต่ละร่องสวนโดยจุดแล้วดับไล่กันไปทีละร่อง จนถึงร่องที่เกิดเหตุ แล้วจำเลยกลับไปก่อน ปล่อยให้นางสมบัติและนางตุ้มลูกจ้างช่วยกันดับไฟตามลำพัง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ขณะที่จำเลยกลับไป นางสมบัติและนางตุ้มก็รอดับไฟอยู่แล้ว ไม่ปรากฏว่าการดับไฟที่เหลืออยู่นั้นเกินกำลังของบุคคลทั้งสองที่จะดับได้การที่ไฟเกิดลุกไหม้ขึ้นภายหลังเกิดจากความประมาทของนางสมบัติที่มิได้ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอในการดับไฟ หาใช่เกิดจากการกระทำโดยประมาทของจำเลยไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน
