แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาคดีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสัญญายกให้กันระหว่างโจทก์กับ พ.ผู้คัดค้าน และ พ.ได้ขายและโอนให้จำเลยที่ 1 ในระหว่างระยะเวลาสามปีก่อนโจทก์ล้มละลาย ถือว่าเป็นการจัดการทรัพย์สินของโจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้และเป็นผู้ล้มละลาย ในอันที่จะต้องจัดการรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้นำมาชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ ซึ่งเป็นอำนาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยเฉพาะเท่านั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กระทำการในฐานะแทนเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ในคดีล้มละลาย ไม่ใช่กระทำการแทนโจทก์ซึ่งเป็นจำเลยหรือลูกหนี้ในคดีล้มละลาย คำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวจึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 ได้เป็นคู่ความในคดีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินแปลงดังกล่าวนั้นด้วยก็ตาม และการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว เป็นอำนาจและหน้าที่โดยเฉพาะของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483ทั้งปรากฏว่าคดีล้มละลายนั้น ศาลได้ยกเลิกการล้มละลายและโจทก์หลุดพ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงหมดอำนาจที่จะดำเนินการต่อไป โจทก์ซึ่งเป็นจำเลยลูกหนี้ในคดีล้มละลายดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยผู้รับโอนเป็นคดีนี้เพื่อบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาฎีกาในคดีล้มละลายดังกล่าวเพราะมิฉะนั้นเท่ากับโจทก์เป็นผู้ทำการแทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งหมดอำนาจไปแล้ว โจทก์ไม่อาจดำเนินการได้