คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6483/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การฝ่าฝืนข้อตกลงระหว่างสามีภริยาเรื่องต่างฝ่ายจะไม่นำบุตรหรือญาติเข้ามาอยู่ในบ้านที่สามีซื้อเป็นเรือนหอ ไม่เป็นเหตุฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 โจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยซึ่งเป็นภริยาไม่สนใจความเป็นอยู่ของโจทก์ ทั้งที่รู้ว่าโจทก์เป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงและอายุมาก จำเลยไม่สนใจจัดการบ้านเรือน อาหารและแอบไปถอนเงินฝากของโจทก์มาใช้ส่วนตัว เป็นเพียงการกล่าวอ้างว่าจำเลยปฏิบัติตนในฐานะภริยาบกพร่องไปเท่านั้น ไม่เป็นเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(3)(6)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่าก่อนโจทก์จำเลยจะสมรสกันจำเลยตกลงว่าจะไม่นำบุตรหรือญาติเข้ามาอยู่ร่วมเรือนด้วย เมื่ออยู่กินร่วมกันได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์จำเลยนำบุตรและญาติเข้ามาอยู่อาศัยร่วมเรือนเดียวกัน จำเลยมีรายได้เดือนละ 2,400 บาท แต่ไม่เคยนำเงินรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว จำเลยไม่สนใจไยดีความเป็นอยู่ของโจทก์ บ้านเรือนรกรุงรัง ไม่มีระเบียบเรียบร้อย จำเลยแอบถอนเงินฝากของโจทก์มาใช้ส่วนตัวจำนวน 63,000 บาท การประพฤติตนของจำเลยทำให้โจทก์ไม่สามารถอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยได้ขอศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา
จำเลยให้การว่า ก่อนสมรสไม่เคยมีข้อตกลงว่าจะอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาแต่เพียงสองคน โจทก์มอบฉันทะให้จำเลยไปถอนเงินฝากจากธนาคารมาใช้ร่วมกันในครอบครัว จำเลยไม่เคยประพฤติตนให้เสื่อมเสียหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา ฟ้องโจทก์ไม่มีประเด็นอันจะเป็นเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์….
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สามีภริยาที่สมรสกันแล้วเมื่อประสงค์จะฟ้องหย่าจะต้องมีเหตุอ้างดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 มิฉะนั้น ศาลก็ไม่อาจพิพากษาให้หย่ากันได้ กรณีตามที่โจทก์ฎีกาแม้หากจะฟังตามที่โจทก์อ้างว่าข้อตกลงก่อนสมรสซึ่งไม่ได้ทำเป็นหนังสือระหว่างโจทก์กับจำเลยเรื่องต่างฝ่ายต่างจะไม่นำบุตรและญาติเข้ามาอยู่ในบ้านของโจทก์ที่ซื้อเป็นเรือนหอสามารถใช้บังคับกันได้ก็ตาม แต่การฝ่าฝืนข้อตกลงดังกล่าวก็ไม่เป็นเหตุที่จะฟ้องหย่ากันได้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1516 ทั้งโจทก์ก็ไม่ได้บรรยายในฟ้องว่าโจทก์ได้รับความเสียหายจากการกระทำฝ่าฝืนข้อตกลงดังกล่าวอย่างไรอันจะเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้ ที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยทรมานร่างกายจิตใจโจทก์อย่างร้ายแรง และกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรงโดยโจทก์กล่าวอ้างในทำนองว่า จำเลยไม่สนใจในความเป็นอยู่ของโจทก์ ทั้งที่รู้ว่าโจทก์เป็นโรคหัวใจโรคความดันโลหิตสูง เป็นคนอายุมาก จำเลยไม่สนใจจัดการบ้านเรือนอาหารและแอบไปถอนเงินฝากใช้ส่วนตัว เห็นได้ว่า เป็นเรื่องที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยไม่ได้ทำหน้าที่ภริยาซึ่งควรปฏิบัติต่อสามีการกระทำของจำเลยตามที่โจทก์อ้างหากฟังได้ว่าเป็นความจริงก็เป็นเพียงจำเลยปฏิบัติตนในฐานะภริยาบกพร่องไปเท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทรมานร่างกายหรือจิตใจโจทก์อย่างร้ายแรง หรือกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรงอันจะเป็นสาเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3)(6) ดังที่โจทก์อ้าง
พิพากษายืน

Share