แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤตติการณ์ที่ถือว่า ไม่มีเหตุอันควรที่โจทก์จะขอแก้ฟ้องได้ ตามมาตรา 163 ป.ม.วิ.อาญา.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๔๙๐ เวลากลางวัน จำเลยนำข้าวสาร ๒๒ กระสอบขนย้ายออกจากเขตต์ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าวได้ประกาศห้ามไว้แล้วไปยังเขตต์ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่าตามวันเวลาที่โจทก์ฟ้อง จำเลยหาได้ขนย้ายออกนอกเขตต์อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐมไม่ จำเลยขนย้ายภายในเขตต์อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีเอง สืบพะยานโจทก์ได้ ๒ ปาก ได้ความตรงตามที่จำเลยต่อสู้ ส่วนการขนย้ายจากอำเภอกำแพงแสน มาอำเภอท่ามะกานั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๔๙๐ ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้อง โจทก์จึงยื่นคำร้องขอแก้ฟ้อง เป็นหาว่าจำเลยกระทำผิดวันที่ ๒๒ สิงหาคม โดยอ้างเหตุว่า “เนื่องด้วยฟ้องของโจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับวันเกิดเหตุคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เพราะการเข้าใจเขตต์ท้องที่อันเป็นเขตต์ระหว่างจังหวัดนครปฐม กับกาญจนบุรีไม่ถูกต้อง กล่าวคือวันเกิดเหตุตามฟ้องเดิม เป็นวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๔๙๐ จำเลยนำข้าวผ่านเข้ามาในเขตต์ท้องที่จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ความจริงวันที่ผ่านเข้าตรงเขตต์อันเป็นแดนต่อแดนนั้น เป็นวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๔๙๐ โจทก์จึงขอแก้ฟ้องเสียใหม่” จำเลยแถลงคัดค้านว่าการที่โจทก์ขอแก้ฟ้องวันกระทำผิดทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลไม่ควรให้โจทก์แก้ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง คงดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปจนเสร็จสำนวน แล้วพิพากษาว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง แล้วพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฟ้องที่ขอแก้ใหม่ก็คือ เขตต์ท้องที่ตามเดิมนั่นเอง แท้จริงเป็นเรื่องฟ้องผิดวัน เมื่อโจทก์จะขอแก้ฟ้องให้ถูกต้องตามที่ปรากฎในทางพิจารณา ก็ต้องแสดงเหตุอันควรในการฟ้องผิดวันว่าเป็นเพราะเหตุไร แต่ในเรื่องนี้โจทก์หาได้อ้างเหตุที่ฟ้องผิดวันไม่ กลับไปอ้างเหตุว่าเข้าใจท้องที่ผิด ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องผิดวันแต่อย่างใด จึงถือว่าไม่มีเหตุอันควรที่ศาลจะให้แก้ฟ้องได้ ศาลชั้นต้นไม่ให้แก้และพิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ยืนตามศาลชั้นต้น