คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6473/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ร่วมรู้เรื่องความผิดที่ถูกฉ้อโกงและรู้ตัวผู้กระทำความผิดว่าจำเลยเป็นคนฉ้อโกงตั้งแต่ก่อนวันที่1มิถุนายน2533แล้วเพิ่งมาร้องทุกข์เมื่อวันที่7ธันวาคม2533ซึ่งเกิน3เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดคดีโจทก์และโจทก์ร่วมเป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา96สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(6)โจทก์และโจทก์ร่วมจึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341ให้ จำเลย ใช้ เงิน 815,000 บาท แก่ ผู้เสียหาย
จำเลย ให้การ ปฎิเสธ
ระหว่าง พิจารณา ผู้เสียหาย ยื่น คำร้องขอ เข้าร่วม เป็น โจทก์ศาลชั้นต้น อนุญาต
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 จำคุก 2 ปี ให้ จำเลย ใช้ เงิน 815,000 บาท แก่ โจทก์ร่วม
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ร่วม ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า การ ที่ โจทก์ร่วม รู้ เรื่อง ความผิด ที่ถูก ฉ้อโกง และ รู้ตัว ผู้กระทำ ความผิด ตั้งแต่ ก่อน วันที่ 1 มิถุนายน2533 แล้ว ละเลย ไม่ ร้องทุกข์ เพิ่ง มา ร้องทุกข์ เมื่อ วันที่7 ธันวาคม 2533 ซึ่ง เกิน 3 เดือน นับแต่ วันที่ รู้ เรื่อง ความผิดและ รู้ตัว ผู้กระทำ ความผิด คดี โจทก์ และ โจทก์ร่วม เป็น อัน ขาดอายุความ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 แล้ว สิทธิ นำ คดีอาญามา ฟ้อง ย่อม ระงับ ไป ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(6)โจทก์ และ โจทก์ร่วม จึง ไม่มี อำนาจฟ้อง คดี นี้
พิพากษายืน

Share