แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
อุทธรณ์ของผู้ร้องมีอยู่ 2 ประเด็น คือ เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้บังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษารวมกันไปทั้งหมด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 309 วรรคสอง และเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินในราคาต่ำเกินสมควร เป็นการกระทำไม่สุจริตตามมาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 309 ทวิวรรคสอง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับวินิจฉัยให้เฉพาะประเด็นที่สอง โดยรับฟังไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย คำวินิจฉัยดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ วรรคสี่ ฉะนั้น การที่ผู้ร้องฎีกาว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการบังคับคดีฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 309 วรรคสอง จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 7 ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้บังคับจำนองที่ดินจำนวน 5 แปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้างจำเลยทั้งสามไม่ชำระ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินจำนองออกขายทอดตลาดผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยหนี้อ้างเหตุเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในคดีอื่น และขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทรัพย์จำนองโดยวิธีขายรวม กับขอให้เลื่อนการขายทอดตลาดไปก่อน เจ้าพนักงานบังคับคดียกคำร้องของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด อ้างเหตุการบังคับคดีไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 309วรรคสอง อีกทั้งขายทอดตลาดได้ราคาต่ำกว่าราคาแท้จริง มีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สุจริตตามมาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะอุทธรณ์ว่า การบังคับคดีไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับวินิจฉัยให้เฉพาะอุทธรณ์ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินได้ราคาต่ำกว่าราคาแท้จริง จึงเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต อันเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนการขายทอดตลาดตามมาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 309 ทวิ วรรคสองหรือไม่ และพิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกาว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่เลื่อนการขายทอดตลาดและไม่ขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษารวมกันไป เป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคแรก ประกอบมาตรา 309 วรรคสอง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ในชั้นอุทธรณ์ผู้ร้องอุทธรณ์ 2 ข้อ คือ เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้ดำเนินการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินทั้งหมดของลูกหนี้ตามคำพิพากษารวมกันไป เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 309 วรรคสอง และเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 15828 ตำบลตาหลวง (คลองตาหลวง) อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ในราคาต่ำเกินสมควร เป็นการกระทำไม่สุจริตตามมาตรา 296วรรคสอง ประกอบมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง ศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับวินิจฉัยให้เฉพาะอุทธรณ์ข้อสองและฟังว่าข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายและพิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่ 31 ตุลาคม 2543 ซึ่งเป็นการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ประกอบมาตรา 309 ทวิ วรรคสอง และเป็นที่สุดตามที่บัญญัติในวรรคสี่แห่งมาตรานี้ ฉะนั้น ฎีกาของผู้ร้องที่ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 309 วรรคสอง ตามที่ยกขึ้นอ้างในฎีกา จึงมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 7 ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาผู้ร้อง