แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสร้างกำแพงรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ยาว 10 เมตร กว้าง 90 เซนติเมตร จำเลยให้การว่า จำเลยสร้างกำแพงบนแนวเขตที่ดินติดต่อ ไม่ได้รุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครอง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ตามคำให้การดังกล่าวจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาทมาแต่ต้น มิได้เป็นการแย่งการครอบครองไปจากโจทก์ เพราะการแย่งการครอบครองจะมีขึ้นได้แต่เฉพาะในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น คดีไม่มีประเด็นเรื่องแย่งการครอบครอง ศาลชั้นต้นจึงยก ป.พ.พ. มาตรา 1375 วรรคสอง ขึ้นวินิจฉัยเองหาได้ไม่ เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นและขัดแย้งกับที่จำเลยต่อสู้ในคำให้การ
คำให้การของจำเลยได้กล่าวแก้ต่อสู้เป็นข้อพิพาทว่าเฉพาะตรงที่ดินพิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยสร้างกำแพงรุกล้ำเป็นของจำเลย อันถือว่าเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ซึ่งจะต้องให้คู่ความตีราคาทรัพย์พิพาทว่ามีราคาเท่าใด แต่ศาลล่างทั้งสองกลับดำเนินกระบวนพิจารณามาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 3448 เมื่อประมาณปลายปี 2539 จำเลยสร้างกำแพงคอนกรีตยาวประมาณ 10 เมตร รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ทางด้านทิศใต้กว้างประมาณ 90 เซนติเมตร โจทก์แจ้งให้จำเลยรื้อถอน จำเลยเพิกเฉย ขอให้พิพากษาว่าที่ดินตามแผนที่พิพาทท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนกำแพงออกจากที่ดินหากไม่รื้อถอนให้โจทก์รื้อถอนโดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายและห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์อีกต่อไป
จำเลยให้การว่า จำเลยสร้างกำแพงบนแนวเขตที่ดินติดต่อไม่ได้ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า รั้วในส่วนที่จำเลยสร้างรุกล้ำที่ดินของโจทก์ตกเป็นของโจทก์ แต่เนื่องจากจำเลยมิได้ฟ้องแย้งโจทก์เพื่อขอค่าแห่งที่ดินเพียงที่เพิ่มขึ้นเพราะการสร้างรั้วรุกล้ำ และคู่ความมิได้โต้แย้งในประเด็นเกี่ยวกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 โดยตรง จึงไม่กำหนดค่าแห่งที่ดินที่เพิ่มขึ้นให้จำเลย และไม่ตัดสิทธิคู่ความที่จะไปว่ากล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310 ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปี นับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครอง ฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสร้างกำแพงรุกล้ำเข้าไป ในที่ดินของโจทก์ยาวประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 90 เซนติเมตร จำเลยให้การว่า จำเลยสร้างกำแพงบนแนวเขตที่ดินติดต่อ ไม่ได้รุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครอง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ตามคำให้การดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยอ้างว่าจำเลยเป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินพิพาทมาแต่ต้น มิได้แย่งการครอบครองไปจากโจทก์ เพราะการแย่งการครอบครองจะมีขึ้นได้แต่เฉพาะในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น แม้จำเลยจะให้การไว้ด้วยว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่เวลาที่ถูกแย่งการครอบครอง คดีก็ไม่มีประเด็นเรื่องแย่งการครอบครอง ทั้งในชั้นชี้สองสถานศาลชั้นต้นก็มิได้กำหนดประเด็นในเรื่องนี้ไว้ ดังนั้น ศาลชั้นต้นจึงจะยกปัญหาในข้อที่ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรคสอง ขึ้นวินิยฉัยเองหาได้ไม่ เพราะเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นและขัดแย้งกับข้อที่จำเลยต่อสู้ในคำให้การ แม้โจทก์จะอุทธรณ์ในประเด็นดังกล่าวต่อมา และศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยให้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น และตามคำให้การดังกล่าวยังแสดงด้วยว่าจำเลยได้กล่าวแก้ต่อสู้เป็นข้อพิพาทว่า เฉพาะตรงที่ดินพิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยสร้างกำแพงรุกล้ำเป็นของจำเลย อันถือว่าเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ในที่ดินพิพาทตามฟ้อง ซึ่งจะต้องให้คู่ความตีราคาทรัพย์พิพาทว่ามีราคาเท่าใด แต่ศาลล่างทั้งสองกลับดำเนินกระบวนพิจารณามาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาทั้ง 2 ข้อดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246 และมาตรา 247”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการตีราคาทุนทรัพย์ในที่ดินพิพาทตามฟ้องและเรียกเก็บค่าขึ้นศาลจากโจทก์ให้ครบถ้วน แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ