แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งว่าคำพิพากษาในคดีแพ่งเป็นโมฆะเพราะศาลฟังพยานหลักฐานผิดไปจากความเป็นจริงปรากฏว่าคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดไปแล้วโดยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าบ้านพิพาทมิใช่ทรัพย์มรดกของส. โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผลแห่งคำพิพากษาถึงที่สุดดังกล่าวย่อมผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นโจทก์ในคดีดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145ผู้ร้องจำต้องรับผลแห่งคำพิพากษานั้นจะมาโต้เถียงอีกว่าคำพิพากษาพิจารณาไปโดยสำคัญผิดในข้อเท็จจริงและศาลพิจารณาข้อเท็จจริงในคำพิพากษาไม่ตรงกับความเป็นจริงทั้งๆที่คำพิพากษาให้เป็นฝ่ายแพ้คดีหาได้ไม่ทั้งมิใช่กรณีที่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องจะต้องใช้สิทธิทางศาลอันจะยื่นคำร้องเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทเป็นคดีนี้ได้ตามมาตรา55และการขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบตามมาตรา27นั้นจะต้องยื่นคำร้องขอในคดีที่อ้างว่ามีการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเองจะยื่นคำร้องขอเป็นคดีใหม่ไม่ได้
ย่อยาว
ผู้ร้อยคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องนางสาวอาภรณ์ ไพลวัลเป็นจำเลย เรื่องละเมิด โดยมีคำขอให้ขับไล่นางสาวอาภรณ์กับบริวารออกจากบ้านเลขที่ 8 และชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ร้องตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1401/2536ของศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฟังพยานหลักบานผิดไปจากความเป็นจริงแล้วพิพากษาให้ผู้ร้องเป็นฝ่ายแพ้คดี ผู้ร้องได้ยื่นฎีกา แต่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกา ยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ทำให้คดีดังกล่าวถึงที่สุด ผู้ร้องไม่มีทางอื่นใดที่จะให้ศาลพิจารณาพยานหลักฐานใหม่อีกครั้งแล้วพิพากษาคดีให้ตรงกับความเป็นจริงได้ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าคำพิพากษาในคดีดังกล่าวเป็นโมฆะ
ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องของผู้ร้องแล้วมีคำสั่งว่า ผลของคำพิพากษาย่อมผูกพันคู่ความ ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงผลของคำพิพากษาให้ยกคำร้อง
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นว่า ข้ออ้างตามคำร้องขอของผู้ร้องที่ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งว่าคำพิพากษาตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1401/2536 ของศาลชั้นต้นเป็นโมฆะเพราะศาลฟังพยานหลักฐานผิดไปจากความเป็นจริงนั้น ปรากฏว่าคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดไปแล้วโดยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ซึ่งวินิจฉัยว่าบ้านพิพาทมิใช่ทรัพย์มรดกของนางสังวาลย์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย ผลแห่งคำพิพากษาถึงที่สุดดังกล่าวย่อมผูกพันผู้ร้อง (โจทก์) และจำเลยซึ่งเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145ผู้ร้องจำต้องรับผลแห่งคำพิพากษานั้น จะมาโต้เถียงอีกว่าคำพิพากษาพิจารณาไปโดยสำคัญผิดในข้อเท็จจริงและศาลพิจารณาข้อเท็จจริงในคำพิพากษาไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้ง ๆ ที่คำพิพากษาให้เป็นฝ่ายแพ้คดีหาได้ไม่ มิฉะนั้นแล้วคำพิพากษาของศาลย่อมไร้ผลทั้งมิใช่กรณีที่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องจะต้องใช้สิทธิทางศาลอันจะยื่นคำร้องเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทเป็นคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 และการขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 นั้นจะต้องยื่นคำร้องขอในคดีที่อ้างว่ามีการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเองจะยื่นคำร้องขอเป็นคดีใหม่ไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษายกคำร้องชอบแล้ว ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน