คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6397/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดที่จำเลยกระทำเป็นความผิดซึ่งหน้า แม้จำเลย จะได้กระทำในที่รโหฐาน เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งมี อำนาจสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดต่อกฎหมายย่อมมีอำนาจจับจำเลยได้โดยไม่ต้องมีหมายจับหรือหมายค้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 การที่เจ้าพนักงานตำรวจเป็นผู้จัดหาธนบัตรให้แก่สายลับ ไปล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลย ถือเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีอำนาจ สืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดปฏิบัติไปตามอำนาจ และหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเพื่อที่จะทราบรายละเอียดแห่งความผิด ไม่ถือว่าเป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบ การที่พนักงานสอบสวนปกปิดชื่อและตัวสายลับไม่ได้ สอบปากคำของสายลับไว้เป็นหลักฐาน ก็เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะสืบหาพยานหลักฐานมาประกอบดำเนินคดี และเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะสอบสวนบุคคลใดเป็นพยานได้ การที่พนักงานสอบสวนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องสอบปากคำสายลับไว้เป็นหลักฐานไม่ถือว่าการสอบสวนไม่ชอบ คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นไปโดยสมัครใจตามความสัตย์จริงจึงใช้เป็นพยานหลักฐานยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 13 ทวิ, 89 คืนธนบัตร 400 บาท ที่ใช้ล่อซื้อแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง,89 จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและ ชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสามจำคุก 3 ปี 4 เดือน คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยโดยไม่ชอบเพราะไม่มีหมายค้นและการวางแผนจับจำเลยโดยใช้ธนบัตรซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจเป็นผู้จัดหาไปล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยเป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบ เพราะเป็นการสร้างพยานหลักฐานโดยเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง กับการสอบสวนไม่ชอบเพราะพนักงานสอบสวนปกปิดชื่อและตัวตนของสายลับไม่ได้สอบปากคำของสายลับไว้เป็นหลักฐานนั้น เห็นว่าความผิดที่จำเลยกระทำเป็นความผิดซึ่งหน้า แม้จำเลยจะได้กระทำในที่รโหฐาน เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งมีอำนาจสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดต่อกฎหมาย ย่อมมีอำนาจจับจำเลยได้โดยไม่ต้องมีหมายจับหรือหมายค้นการจับจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการที่เจ้าพนักงานตำรวจเป็นผู้จัดหาธนบัตรให้แก่สายลับไปล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยถือเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีอำนาจสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดปฏิบัติไปตามอำนาจและหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเพื่อที่จะทราบรายละเอียดแห่งความผิด ไม่ถือว่าเป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบและที่พนักงานสอบสวนปกปิดชื่อและตัวตนของสายลับไม่ได้สอบปากคำของสายลับไว้เป็นหลักฐานก็เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะสืบหาพยานหลักฐานมาประกอบดำเนินคดี และเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะสอบสวนบุคคลใดเป็นพยานก็ได้ การที่พนักงานสอบสวนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องสอบปากคำสายลับไว้เป็นหลักฐานไม่ถือว่าการสอบสวนไม่ชอบ
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าการจับกุมและการสอบสวนไม่ชอบ เพราะเจ้าพนักงานตำรวจจับมือจำเลยพิมพ์ลายนิ้วมือลงในบันทึกการจับกุมและบันทึกคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนโดยจำเลยไม่รู้หนังสือและไม่มีผู้ใดอ่านให้ฟังตลอดจนการสอบสวนข้อเท็จจริงไม่ตรงกับรูปเรื่องนั้น เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลล่างทั้งสอง เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงศาลฎีกาจะได้รวมวินิจฉัยในฎีกาข้อต่อไปของจำเลย
ที่จำเลยฎีกาในข้อต่อไปว่า จำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้องนั้น ศาลฎีกาเชื่อว่าคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นไปโดยสมัครใจตามความสัตย์จริงจึงใช้เป็นพยานหลักฐานยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบประกอบกับคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน

Share