แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พินัยกรรมทำขึ้น 2 ฉบับ ข้อความเหมือนกัน ฉบับหนึ่งที่คู่ความนำส่งศาลนั้นทำครบถ้วนตามแบบพินัยกรรม อีกฉบับหนึ่งทำไม่ครบถ้วนถูกต้องและคู่ความอีกฝ่ายก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าฉบับที่ทำถูกต้องนั้นใช้ไม่ได้ ดังนี้ฉบับที่ทำไม่ถูกต้องไม่ทำให้ฉบับที่สมบูรณ์พลอยเสียไปด้วย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกมรดก
จำเลยให้การและฟ้องแย้งขอแบ่งมรดกว่า ทรัพย์บางอันดับเป็นของนางเหรียญมารดาโจทก์กับของจำเลยที่ ๑ คนละครึ่ง บางอันดับนางเหรียญทำพินัยกรรมยกให้จำเลยที่ ๒ แต่ผู้เดียว บางอันดับนางบุญมารดาจำเลยที่ ๑ ทำพินัยกรรมยกให้ จำเลยที่ ๑
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งมรดก และให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้หักเงินที่จำเลยใช้หนี้แทนผู้ตายและเงินค่าทำศพออกจากกองมรดกก่อนแล้วจึงแบ่ง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเฉพาะในข้อที่โจทก์ฎีกาว่าพินัยกรรมของนางบุญไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น ปรากฎว่าในการทำ พินัยกรรมคราวนี้ ได้เขียนพินัยกรรมขึ้น ๒ ฉบับ ข้อความเหมือนกัน ฉบับที่จำเลยนำส่งศาลมีลายมือชื่อนางบุญผู้ทำ พินัยกรรม และมีพยานผู้นั่งพินัยกรรมเซ็นชื่อเป็นพยานทั้ง ๔ คนโดยเรียบร้อย ส่วนอีก ๑ ฉบับที่นายเรียงกำนัน (พยานจำเลย) ส่งศาลในขณะเบิกความนั้นมีนายเรียงเซ็นชื่อผู้เดียว พยานอีก ๓ คนไม่ได้เซ็นชื่อด้วย ดังนี้กฎหมาย ลักษณะพินัยกรรมมิได้บังคับให้จำเลยต้องทำพินัยกรรมเป็น ๒ ฉบับ ฉะนั้นเมื่อพินัยกรรมฉบับที่จำเลยอ้างต่อศาล ครบถ้วนตามแบบแล้ว ก็ใช้ได้ตามกฎหมาย และโจทก์ก็มิได้ปฏิเสธว่าพินัยกรรมฉบับนี้ใช้ไม่ได้ เมื่อเอกสารแผ่นหนึ่ง ไม่ใช่พินัยกรรมที่สมบูรณ์ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเอกสารแผ่นนั้นเอง ไม่ทำให้พินัยกรรมที่สมบูรณ์พลอยเสียไปด้วย
ส่วนฎีกาข้ออื่นศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่ามีพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่จำเลยจริง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้อง
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.