คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลยอมรับคำร้องขอแก้ฟ้องหรือเพิ่มเติมฟ้องที่เป็นการทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีนี้นถือว่าเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาแลเป็นปัญหาข้อกฎหมายอาญา ม.6 ข้อ 8 พฤตติการณ์ที่ฟ้องว่าไม่ได้การสมคบกันความเกี่ยวพันกันในทางวงษ์ญาติยังไม่พอที่จะฟังว่าสมคบกันกระทำผิด

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่า โจทก์กับล.จำเลยเกิดทะเลาะเป็นปากเสียงกันขึ้น ขณะโต้เถียงกันนั้น ป.จำเลยหลานชาย ถ.เข้าตีโจทก์ ๑ ทีแล้ว ล.ใช้กะบอกไฟฟ้ากะแทกโจทก์อีก ๑ ที แลปรากฏว่าเดิมโจทก์ฟ้องว่า ป.จำเลยเป็นคนใช้ไม้ตีโจทก์ แล้ว ป.จำเลยใช้กะบอกไฟฟ้ากะแทกโจทก์ แต่เวลาสืบพะยานโจทก์นำสืบว่า ป.เป็นคนดี แล้ว ล.ใช้กะบอกไฟฟ้ากะแทกโจทก์ ตลอดเวลาพิจารณาไม่มีการแก้ไขฟ้องประการใด เมื่อศาลสืบพะยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว ต่อมา ๔ วันโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่าที่ว่า ป.ใช้ไฟฟ้ากะแทกโจทก์นั้นที่ถูกเป็น ล.จึงขอแก้ฟ้องว่า ล.เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ากะแทกโจทก์ศาลสั่งสำเนาคำร้องแก่จำเลย ๆ จึงคัดค้านว่าไม่ควรอนุญาตให้แก้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รวมสำนวนไว้ ต่อมาอีก ๒ วันก็พิพากษาให้ลงโทษ ล.จำเลยตาม ม.๒๕๔ ส่วน ป.จำเลยโจทก์ถอนฟ้องไปโดยส่งหมายให้ไม่ได้
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ล.กับ ป.สมคบกันทำร้ายร่างกายโจทก์มีบาดเจ็บ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์เพิ่งมาขอแก้ฟ้องเมื่อได้สืบพะยานโจทก์จำเลยเสร็จสำนวนแล้ว และการที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องจำเลยก็ได้-ยื่นคำคัดค้านต่อศาล ๆ ก็หาได้มีคำสั่งประการใดไม่ ทั้งในคำร้องที่โจทก์ขอแก้ฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าศาลได้อนุญาตให้แก้ฟ้องหรือไม่ ต่อมาก็พิพากษาลงโทษจำเลยทีเดียว จำเลยไม่มีโอกาศที่จะนำสืบต่อสู้คดีได้ เห็นว่าเป็นการไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา แลข้อที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยสมคบกับ ป.ทำร้ายร่างกายโจทก์ก็โดยถือว่า ป.เป็นหลานจำเลย เห็นว่าการเกี่ยวพันกันในทางวงษ์ญาติไม่เป็นข้อที่จะให้ฟังว่าเป็นการสมคบกัน ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้สมรู้กับ ป.ด้วยกิริยาท่าทางหรือวาจาแต่ประการใด จึงเป็นการวินิจฉัยโดยไม่มีพะยานหลักฐานในท้องสำนวนสนับสนุนจึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยตัวจำเลยไป

Share