แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พยานหลักฐานของโจทก์ว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงมีแต่คำให้การการรับสารภาพของจำเลยตามบันทึกการตรวจค้นและจับกุมเอกสารหมาย จ.2 โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุนว่า จำเลยมีเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายคำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่าไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้โดยลำพัง เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบสนับสนุนว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายพยานหลักฐานของโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักพอให้ฟังได้ว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 6, 7, 8, 15, 66, 67, 102 และริบเฮโรอีนของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา66 วรรคแรก จำคุก 15 ปี ริบเฮโรอีนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 8, 15 วรรคแรก, 67 ให้จำคุก3 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุก 2 ปี 4 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า ตามวันเวลาสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจยึดเฮโรอีนของกลางหนัก 5.54 กรัม ซึ่งจำเลยมีไว้ในครอบครองและบรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกจำนวน 5 หลอด คดีมีปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ เห็นว่าพยานโจทก์มิได้เบิกความเลยว่านอกจากจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในกระเป๋าถือของจำเลยแล้วจำเลยได้กระทำการอย่างใดอันแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเฮโรอีนดังกล่าวไว้เพื่อจำหน่าย พยานหลักฐานของโจทก์ว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยตามบันทึกการตรวจค้นและจับกุมเอกสารหมาย จ.2โดยไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุนว่าจำเลยมีเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแต่อย่างใด คำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่า ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้โดยลำพัง เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบสนับสนุนว่าจำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พยานหลักฐานของโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักพอให้ฟังได้ว่า จำเลยมีเฮโรอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
