คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2332/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในวันนัดสืบพยานจำเลย ทนายจำเลยแถลงว่าจำเลยไม่มีประเด็นอื่นที่จะสืบตามคำให้การอีก จึงไม่ติดใจสืบพยาน แต่ขอเลื่อนคดีเพื่อไปตกลงยอดหนี้กับโจทก์ก่อน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดพร้อมในวันนัดพร้อมเพื่อฟังผลการเจรจา โจทก์และจำเลยยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องยอดหนี้ ก็ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิพากษาคดีไปได้โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไรต่อไปอีก

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ จำเลยให้การสู้คดี ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วและนัดสืบพยานจำเลย ในวันนัดสืบพยานจำเลย ทนายจำเลยแถลงว่าจำเลยมีหนี้เบิกเงินเกินบัญชีอีกจำนวนหนึ่งซึ่งจำเลยชำระไปแล้ว จึงยังคำนวณยอดหนี้ที่ถูกต้องไม่ได้และจำเลยไม่มีประเด็นอื่นที่จะสืบตามคำให้การอีก จึงไม่ติดใจสืบพยานแต่ขอเลื่อนคดีเพื่อไปตกลงยอดหนี้กับโจทก์ก่อน ศาลชั้นต้นอนุญาตในวันนัดพร้อมเพื่อฟังผลการเจรจา ทนายจำเลยแถลงว่า ได้ไปเจรจาทำความตกลงกับโจทก์แล้วแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทนายโจทก์แถลงว่าจำเลยยังไม่ได้ไปติดต่อกับโจทก์ ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่สามารถทำความตกลงกันได้ ประกอบกับจำเลยไม่มีประเด็นที่จะสืบตามคำให้การ คดีจึงเสร็จการพิจารณาและนัดฟังคำพิพากษา แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นฉบับลงวันที่ 17 มิถุนายน 2534 ทนายจำเลยแถลงต่อศาลเองว่าจำเลยไม่มีประเด็นอื่นที่จะสืบตามคำให้การอีกต่อไป จำเลยจึงไม่ติดใจสืบพยาน แต่จำเลยขอเลื่อนคดีไปเพื่อทำความตกลงเรื่องยอดหนี้กับโจทก์ ซึ่งศาลชั้นต้นก็อนุญาต ฉะนั้น เมื่อถึงวันนัดพร้อมเพื่อฟังผลการเจรจา โจทก์และจำเลยยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องยอดหนี้ ก็ชอบที่ศาลชั้นต้นจะพิพากษาคดีไปได้โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไรต่อไปอีก
พิพากษายืน

Share