แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 117 วรรคสองมิได้บัญญัติให้มีผลถึงว่า หากยังถามค้านพยานคนใดไม่เสร็จสิ้นแล้วก็ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานดังกล่าวเลยไม่ศาลจึงมีอำนาจที่จะนำคำพยานดังกล่าวที่ตอบคำซักถามของทนายโจทก์และตอบคำถามค้านทนายจำเลยแล้วบางส่วนมารับฟังประกอบพยานเอกสารของโจทก์และจำเลยที่ยื่นประกอบคำซักถามพยานปากนี้ได้ ส่วนจะรับฟังได้มากน้อยเพียงใดก็เป็นดุลพินิจของศาลในการชั่งน้ำหนักคำพยาน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าจ้างก่อสร้างที่ยังค้างชำระจำนวน 163,350 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาโดยละทิ้งงานไปจำเลยต้องว่าจ้างผู้อื่นมาทำงานแทนโจทก์ จำเลยมิได้ค้างชำระค่าจ้าง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 143,466 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง (วันที่ 15 พฤศจิกายน 2536) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “สำหรับปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในประการต่อมาว่า ศาลจะรับฟังคำเบิกความของนายไพโรจน์ คะรานรัมย์ พยานโจทก์ซึ่งยังเบิกความตอบคำถามค้านของทนายความจำเลยไม่แล้วเสร็จได้หรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงในสำนวนปรากฏว่า ระหว่างพิจารณาโจทก์นำนายไพโรจน์หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์เข้าเบิกความและทนายจำเลยได้ถามค้านไว้บ้างแล้ว แต่เนื่องจากติดเวลาเที่ยงจึงได้เลื่อนไปถามค้านในนัดต่อไป แต่นัดต่อมาพยานติดธุระไม่ได้มาศาลจึงเลื่อนวันนัดไปอีกโดยในนัดนี้พยานมาศาลแต่ฝ่ายจำเลยขอเลื่อนคดี หลังจากนั้นอีก 4 นัดพยานไม่มาศาล ศาลถือว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานปากนี้อีกต่อไป จึงให้งดสืบพยานปากนี้ ทนายโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานปากอื่น หมดพยานโจทก์ จำเลยแถลงไม่สืบพยานจำเลย เห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 117 วรรคสองเป็นบทบัญญัติที่กำหนดถึงวิธีการซักถามพยานของคู่ความเพียงว่าเมื่อคู่ความฝ่ายที่อ้างพยานได้ซักถามพยานของฝ่ายตนเสร็จแล้วก็ให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งถามค้านพยานนั้นได้เท่านั้น มิได้บัญญัติให้มีผลถึงว่า หากยังถามค้านพยานคนใดไม่เสร็จสิ้นแล้วก็ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานดังกล่าวเลยแต่อย่างใดไม่ ศาลจึงมีอำนาจที่จะนำคำพยานดังกล่าวที่ตอบคำซักถามของทนายโจทก์และตอบคำถามค้านทนายจำเลยแล้วบางส่วนมารับฟังประกอบพยานเอกสารของโจทก์และจำเลยที่ยื่นประกอบคำซักถามพยานปากนี้ได้ ส่วนจะรับฟังได้มากน้อยเพียงใดนั้น ก็เป็นดุลพินิจของศาลในการชั่งน้ำหนักคำพยาน ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองนำคำเบิกความของนายไพโรจน์พยานโจทก์มารับฟัง จึงชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน