คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6331/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1312 เฉพาะตัวโรงเรือนที่สร้างรุกล้ำที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ได้รับความคุ้มครอง สิ่งอื่น ๆ ที่มิใช่โรงเรือนแม้จะสร้างขึ้นโดยสุจริตก็หาได้รับความคุ้มครองด้วยไม่.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสองฟ้องว่า จำเลยก่อสร้างรั้วและชายคาโรงเรือนรุกล้ำที่ดินโจทก์ ขอให้จำเลยรื้อถอน โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมต่อมาโจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องว่า จำเลยสร้างรั้วคอนกรีตขึ้นใหม่กับวางท่อน้ำทิ้งไว้นอกรั้วล้ำเข้ามาในแนวเขตที่ดินของโจทก์เป็นการจงใจทำผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้บังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยคัดค้านว่า จำเลยทำรั้วตามแนวเขตที่เจ้าหน้าที่รังวัดไว้ระหว่างก่อสร้างโจทก์ไม่เคยทักท้วงว่าจำเลยสร้างรั้วรุกล้ำตรงที่ทำช่องติดบานประตูก็สร้างไม่ชิดแนวเขต ท่อน้ำทิ้งแม้จะวางนอกรั้วแต่ก็ยังอยู่ในแนวเขตที่ดินของจำเลย จำเลยมิได้เจตนาฝ่าฝืนสัญญาประนีประนอมยอมความ
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่า รั้วคอนกรีตที่จำเลยสร้างขึ้นใหม่เฉพาะส่วนที่แลเงาด้วยหมึกสีดำตามแผนที่พิพาท หมาย จ.ล.1รุกล้ำแนวเขตตามสัญญาประนีประนอมยอมความ แต่จำเลยสร้างขึ้นโดยสุจริตจึงไม่ต้องรื้อ รั้วส่วนอื่นและท่อระบายน้ำจำเลยมิได้สร้างและวางรุกล้ำ การทำช่องติดบานประตูรั้วของจำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ มีคำสั่งให้จำเลยสร้างรั้วไปจนสุดที่หลักเขตฒ.3453 โดยไม่มีช่องประตู และให้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 4 ต่อไปจนครบคำขอข้ออื่นของโจทก์ให้ยก
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยรื้อถอนรั้วที่สร้างรุกล้ำออกไปจากที่ดินของโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ตามฎีกาของจำเลยแต่เพียงว่า จำเลยได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312 จึงไม่ต้องรื้อถอนรั้วพิพาทที่สร้างรุกล้ำที่ดินของโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1312 เฉพาะตัวโรงเรือนที่สร้างรุกล้ำที่ดินของผู้อื่นโดยสุจริตเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ได้รับความคุ้มครอง สิ่งอื่น ๆที่มิใช่โรงเรือนแม้จะสร้างขึ้นโดยสุจริตก็หาได้รับความคุ้มครองด้วยไม่ เช่นนี้ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนรั้วพิพาทส่วนที่รุกล้ำออกไปจากที่ดินของโจทก์จึงชอบแล้ว…”
พิพากษายืน.

Share