แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 แต่งตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะเป็นสัญญาตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่ทดรองจ่ายแทนจำเลยที่ 1 กรณีจึงเป็นเรื่องตัวแทนเรียกเอาเงินที่ได้ทดรองจ่ายไปในกิจการอันตัวการมอบหมายแก่ตนจากตัวการ ตามมาตรา 816 วรรคหนึ่งซึ่งในกรณีดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่นต้องใช้อายุความสิบปี ตามมาตรา 164(เดิม)ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะโจทก์ฟ้องคดีนี้ ไม่ใช่ กรณีที่โจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาค่าที่ได้ออกเงินทดรองจากจำเลยทั้งสอง ตามมาตรา 165(7)(เดิม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน23,464,307.83 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงิน 11,965,934.77 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดีหลายประการและให้การด้วยว่าโจทก์มิได้กระทำการในฐานะตัวแทนและนายหน้าของจำเลยทั้งสองจำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ อย่างไรก็ดีโจทก์ฟ้องคดีนี้เกินกำหนด 2 ปี โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องเอาสินจ้างอันพึงจะได้รับในการสั่งซื้อสั่งขายหุ้น รวมทั้งค่าที่ได้ออกเงินทดรองไปเกิน 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน6,034,039.56 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากยอดเงิน 278,275 บาท นับแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2522 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2523 จากยอดเงิน 341,960 บาท นับแต่วันที่5 พฤษภาคม 2522 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2523 และจากยอดเงิน5,005,753 บาท นับแต่วันที่ 16 กันยายน 2523 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ให้นำเงิน 1,970,011.20 บาท มาหักหนี้ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2522 กับนำเงินค่าขายหุ้นที่โจทก์ขายไปแต่ละจำนวนในวันที่ขายได้ตามฟ้องข้อ 3 รวม 8 รายการมาหักหนี้ให้จำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองในประการสุดท้ายว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ฝ่ายจำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้ามิใช่ตัวแทนจึงต้องนำอายุความตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(7)(เดิม) มาปรับแก่คดีนั้นเห็นว่า จำเลยที่ 1 แต่งตั้งโจทก์เป็นตัวแทนในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการที่จำเลยที่ 1 แต่งตั้งโจทก์เป็นตัวแทนดังกล่าวมีลักษณะเป็นสัญญาตัวแทน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 ฉะนั้น การที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่ทดรองจ่ายแทนจำเลยที่ 1 กรณีจึงเป็นเรื่องตัวแทนเรียกเอาเงินที่ได้ทดรองจ่ายไปในกิจการอันตัวการมอบหมายแก่ตนจากตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 816 วรรคหนึ่งซึ่งในกรณีดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่นต้องใช้อายุความสิบปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164(เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะโจทก์ฟ้องคดีนี้ (ฟ้องวันที่ 30 พฤศจิกายน 2531) ไม่ใช่กรณีที่โจทก์เป็นผู้ค้าในการรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาค่าที่ได้ออกเงินทดรองจากจำเลยทั้งสอง ตามมาตรา 165(7) ดังที่จำเลยทั้งสองอ้าง
พิพากษายืน