คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 631/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(3) เจตนารมย์ของกฎหมายมุ่งหมายถึงการก่อให้เกิดอันตรายแก่กายที่สูญเสียอวัยวะสำคัญๆ ของร่างกายเช่นที่ระบุไว้ในกฎหมายนั้น ดังนั้น การสูญเสียอวัยวะอื่นใดตามมาตรา 297(3) ก็ต้องเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกายหรือต้องสูญเสียไปถึงขนาดเทียบเท่าเสีย แขน ขา มือ เท้า นิ้ว ตามที่กฎหมายระบุไว้แล้ว มิใช่ว่าเสียอวัยวะส่วนใด ๆ ก็เป็นอันตรายสาหัสเช่นเดียวกันทั้งหมดไม่
โจทก์ต้องเสียฟันไปเพียงซี่เดียว แม้ฟันจะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายแต่เฉพาะเท่าที่เสียไปยังไม่ถึงขนาดที่จะถือได้ว่ามีความสำคัญหรือการสูญเสียเทียบเท่ากับการเสีย แขน ขา มือ เท้า หรือนิ้ว อันเป็นอวัยวะที่กฎหมายระบุไว้ชัดแจ้งนั้น จะนับว่าโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสตามความในมาตรา 297(3) บัญญัติไว้ยังไม่ได้
ข้อที่ว่า ฟันที่ต้องเสียไป 1 ซี่นี้อยู่ด้านหน้าทำให้รูปหน้าเสียโฉมติดตัวเป็นอันตรายสาหัสตามมาตรา 297(4) นั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้องและขอให้ลงโทษจำเลยในข้อนี้ จึงมิใช่ข้อกฎหมายที่โจทก์จะยกขึ้นว่ากล่าวได้เลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันใช้กำลังกายชกต่อยเตะและกระทืบโจทก์ มีบาดเจ็บตามร่างกาย แพทย์ต้องถอนฟันออก 1 ซี่ ถึงบาดเจ็บสาหัสทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนากล้า ต้องรักษาพยาบาลเกินยี่สิบวัน ประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน และกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295, 269, 297, 298, 83

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยร่วมกันทำร้ายโจทก์ โจทก์ถอนฟันเพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ได้รับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297(3) พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297(3), 298, 83 ประกอบด้วยมาตรา 289(4) ให้ลงโทษตามมาตรา 298 จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 2 ปี 6 เดือน

จำเลยที่ 1 อายุ 20 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 8 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันทำร้ายโจทก์ แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามมาตรา 297(3) ที่ว่า อันตรายสาหัสคำว่า “อวัยวะอื่นใด” ต้องหมายถึงอวัยวะที่มีความสำคัญพอจะเทียบกันได้กับอวัยวะที่ออกชื่อแล้ว ฟันที่โจทก์เสียไป 1 ซี่ ไม่เป็นอวัยวะอันต้องด้วยอนุมาตรานี้ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 6 เดือน และไม่ลดมาตราส่วนโทษตามมาตรา 76ให้จำเลยที่ 1

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาได้พิจารณาข้อความในบทมาตรา 297 ซึ่งบัญญัติว่า “ฯลฯอันตรายสาหัส คือ (1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือ เสียฆานประสาท (2) เสียอวัยวะสืบพันธ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์ (3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด ฯลฯ” โดยเฉพาะตาม (3) อันเป็นปัญหาที่ต้องวินิจฉัยในเรื่องนี้ เห็นว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายมุ่งหมายถึงการก่อให้เกิดอันตรายแก่กายที่สูญเสียอวัยวะสำคัญ ๆ ของร่างกาย เช่นที่ระบุไว้ในกฎหมายนั้น ดังนั้น การสูญเสียอวัยวะอื่นใดตามมาตรา 297(3) ก็ต้องเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อร่างกาย หรือต้องสูญเสียไปถึงขนาดเทียบเท่าเสียแขน ขา มือ เท้า หรือนิ้ว ตามที่กฎหมายระบุไว้แล้ว มิใช่ว่าเสียอวัยวะส่วนใด ๆ ก็เป็นอันตรายสาหัสเช่นเดียวกันทั้งหมดไม่ในเรื่องนี้โจทก์ต้องเสียฟันไปเพียงซี่เดียว แม้ฟันจะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่เฉพาะเท่าที่เสียไปยังไม่ถึงขนาดที่จะถือได้ว่ามีความสำคัญหรือการสูญเสียเทียบเท่าการเสีย แขน ขา มือเท้า หรือนิ้ว อันเป็นอวัยวะที่กฎหมายระบุไว้ชัดแจ้งนั้น จะฟังว่าโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสตามความในมาตรา 297(3) บัญญัติไว้ยังไม่ได้

ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่า ฟันที่ต้องเสียไปซี่นี้อยู่ด้านหน้าทำให้รูปหน้าเสียโฉมติดตัว เป็นอันตรายสาหัสตามมาตรา 297(4) นั้น โจทก์มิได้บรรยายฟ้อง และขอให้ลงโทษจำเลยในข้อนี้ จึงมิใช่ข้อกฎหมายที่โจทก์จะยกขึ้นว่ากล่าวได้เลย

พิพากษายืน

Share