คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บริษัทจำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 2 เป็น กรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้แทนของบริษัทจำเลยที่ 1 ได้เซ็นเช็คสั่งจ่ายเงินโดยเจตนาจะมิให้มีการใช้เงินตามเช็คอันเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องแล้วก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ออกเช็ครายนี้และมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองติดต่อค้าขายกับโจทก์ มีหนี้สินติดค้างกันอยู่ ได้คิดบัญชีกันเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2514 จำเลยค้างชำระหนี้โจทก์เป็นเงิน 284,041.66 บาท จึงทำบันทึกตกลงชำระหนี้กันไว้ จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 10,000 บาท เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โจทก์ได้นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น ทั้งนี้โดยจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันออกเช็คโดยรู้อยู่แล้วว่าขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ หรือออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็ค หรือเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ปรับจำเลยที่ 1 หนึ่งหมื่นบาท จำคุกจำเลยที่ 2 สองเดือน

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะที่เป็นปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาข้อ 1

ศาลฎีกาวินิจฉัยฎีกาของจำเลยข้อ 1 ที่ว่า จำเลยที่ 2 ลงนามสั่งจ่ายเงินในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 มิได้ลงนามในฐานะส่วนตัว และบัญชีเงินฝากในธนาคารของอเมริกาก็เป็นบัญชีเงินฝากในนามของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดทางอาญาเป็นส่วนตัว ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว คดีนี้มีปัญหาในชั้นฎีกาแต่เฉพาะข้อกฎหมายซึ่งศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 ได้ออกเช็คหมาย จ.1 สั่งจ่ายเงินหนึ่งหมื่นบาทในนามของจำเลยที่ 1 มอบให้โจทก์ไว้เป็นการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 ทั้งนี้ โดยจำเลยที่ 2 มีฐานะเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 มีอำนาจลงชื่อแทนจำเลยที่ 1 ตามหนังสือรับรองของหอทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ศาลฎีกาเห็นว่า การดำเนินกิจการของบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคลย่อมแสดงออกโดยทางผู้แทนทั้งหลายของบริษัท เมื่อจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้แทนของบริษัทจำเลยที่ 1 ได้เซ็นเช็คสั่งจ่ายเงินโดยเจตนาจะมิให้มีการใช้เงินตามเช็ค อันเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องแล้ว ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ออกเช็ครายนี้ และมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย

พิพากษายืน

Share