คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 63/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองย้อนกลับมาที่ร้านขายเหล้าและอาหาร ต่อว่าเจ้าของร้านว่าทอนสตางค์ไม่ครบ จึงเกิดเถียงกันจำเลยที่ 1 ฉุดเจ้าของร้านออกไปนอกร้าน โดยมีจำเลยที่ 2 ดันหลัง แล้วจำเลยที่ 1 ต่อยเจ้าของร้านด้วยสนับมือที่พกมา จำเลยที่ 2 ก็แทงเจ้าของร้านในเวลาติดต่อกันไปแล้วจำเลยก็พากันหนีไปต่อมาไม่ช้าเจ้าของร้านก็ตาย ถือว่า จำเลยทั้งสองร่วมมือกันฆ่าเจ้าของร้านตายไม่ใช่เป็นเรื่องสมัครใจวิวาท

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน มาซื้อสุราและเนื้อต้มกินอยู่ในร้านนายโล้ยหมงเสร็จแล้วชำระสตางค์ออกจากร้านไป ประมาณ 10 นาที จำเลยทั้งสองกลับมาต่อว่าว่าทอนสตางค์ให้ไม่ครบจึงเถียงกัน และจำเลยที่ 1 ลงมือฉุดนายโล้ยหมงออกไปนอกร้าน โดยมีจำเลยที่ 2 ดันหลัง จำเลยที่ 1 ต่อยนายโล้ยหมงด้วยสนับมือที่พกมา จำเลยที่ 2 ก็แทงนายโล้ยหมงในเวลาติดต่อกันไปแล้วจำเลยพากันหนีไป ต่อมาไม่ช้านายโล้ยหมงตาย

ศาลชั้นต้นว่า เป็นเรื่องจำเลยต่างคนต่างทำ มิได้สมคบกันฆ่าจึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 (ฐานทำร้ายร่างกาย) ให้จำคุก 2 ปี จำเลยที่ 2 ผิดตาม มาตรา 288 (ฐานฆ่าคนตาย) ให้จำคุก 15 ปี

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตาม มาตรา 288 ให้จำคุก 15 ปี

ศาลฎีกาว่า ตามข้อเท็จจริงข้างต้นแสดงให้เห็นว่า จำเลยทั้งสองร่วมมือกันฆ่านายโล้ยหมง หาใช่เป็นเหตุเกิดขึ้นโดยสมัครใจวิวาทดังที่ จำเลยที่ 1 ฎีกาไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share