คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 116/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยตีผู้เสียหาย 2 คน ด้วยเกี๊ยะ ฐานแผลถึงบวมนูน แพทย์ผู้ชันสูตรประมาณว่ารักษาหายภายใน 3 วัน และ 2 วันตามลำดับ โจทก์นำสืบว่า ผู้เสียหาย รักษา 7 วัน 5 วัน หาย เห็นว่าลักษณะการกระทำของจำเลยและฐานแผลของผู้เสียหาย ต้องรักษาอยู่หลายวัน ถือได้ว่าเป็นอันตราย แก่กาย ไม่จำเป็นต้องมีโลหิตไหลเป็นอันตรายแก่กาย ย่อมมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เฉพาะยางอู้ซิมเป็นโจทก์ส่วนตัว ส่วนข้อที่จำเลยทำร้ายเด็กชายฮังบุง พิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ จำคุก ๑ เดือน รอกการลงโทษไว้มีกำหนด ๓ ปี ตาม มาตรา ๕๖ ริบเกี๊ยะของกลาง
โจทก์ที่ ๑ และจำเลย อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีผิดฐานทำร้ายร่างกายนางอู้ซิมและเด็กชายฮังบุงตาม มาตรา ๒๙๕ จำคุกจำเลย ๒ เดือน รอการลงโทษมีกำหนด ๓ ปี ตามมาตรา ๕๖
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บาดแผลของโจทก์ทั้งสอง จำเลยตีด้วยเกี๊ยะฐานแผลถึงบวมนูน แพทย์ผู้ชันสูตรประมาณว่ารักษาหายภายใน ๓ วันและ ๒ วัน ตามลำดับ โจทก์สืบว่านางซิมรักษา ๗ วันตาย เด็กชายฮังบุงรักษา ๓ วันหาย เห็นว่าด้วยลักษณะการกระทำของจำเลยและฐานแผลของโจทก์บวมนูนต้องรักษาอยู่หลายวัน เช่นนี้ ถือได้ว่า เป็นอันตรายแก่กาย ไม่จำต้องมีโลหิตไหล ก็เป็นอันตรายแก่กายตามมาตรา ๒๙๕ ได้
พิพากษายืน

Share