คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 628/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำขอให้พิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 จำเลยกล่าวเพียงว่ากรณีอย่างเดียวกันนี้โจทก์เคยฟ้องจำเลยมาแล้ว และศาลพิพากษาให้จำเลยชนะคดี ถ้าจำเลยมีโอกาสซักค้านพยานโจทก์และนำพยานหลักฐานเข้าสืบแสดงต่อศาล ศาลก็ต้องพิพากษาให้จำเลยชนะคดี เพราะพยานหลักฐานโจทก์และจำเลยในคดีนี้กับคดีดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานชุดเดียวกัน ถือไม่ได้ว่าได้กล่าวคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยละเอียดชัดแจ้ง จึงไม่ชอบที่จะรับไว้พิจารณาและศาลอาจยกคำร้องได้โดยไม่ต้องไต่สวน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งจำเลยออกให้ไว้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยจำเลยให้การต่อสู้คดีแต่ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวน แต่เมื่อถึงวันนัดศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วจึงงดการไต่สวนและสั่งยกคำร้องของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๐๘ วรรคสองบัญญัติว่า คำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล แต่คำขอพิจารณาใหม่ของจำเลยนั้นได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งแต่เพียงเหตุที่จำเลยได้ขาดนัด มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ที่จำเลยกล่าวว่ากรณีอย่างเดียวกันนี้โจทก์เคยยื่นฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งแล้วศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดีตามสำนวนคดีหมายเลขดำที่๒๕๗๒๓/๒๕๒๘ หมายเลขแดงที่ ๕๖๑๘/๒๕๓๐ ของศาลชั้นต้น ระหว่างบริษัทเงินทุนไทยเซฟวิ่งก์ทรัสต์ จำกัด โจทก์บริษัทเงินทุนชาติไพบูลย์ จำกัด จำเลย ถ้าจำเลยมีโอกาสได้ซักค้านพยานโจทก์และนำพยานหลักฐานเข้าสืบแสดงต่อศาล ศาลก็จะต้องพิพากษาให้จำเลยชนะคดีเช่นเดียวกัน เพราะพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยในคดีนี้กับคดีดังกล่าวของศาลชั้นต้นเป็นพยานชุดเดียวกันนั้นถือไม่ได้ว่าได้กล่าวคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยละเอียดชัดแจ้งตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายอันชอบจะรับไว้พิจารณา และศาลอาจยกคำร้องของจำเลยเสียได้โดยไม่ต้องไต่สวน
พิพากษายืน.

Share