แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 เข้าแย่งการครอบครองแล้วแต่ในระหว่างพิจารณาโจทก์ถูกจำเลยที่ 3 ที่ 4 ฟ้องเป็นจำเลย โดยจำเลยที่ 3 ที่ 4 หาว่าโจทก์นำชี้ทำแผนที่พิพาทรุกล้ำที่ของจำเลยที่ 3 ที่ 4 คู่ความทุกสำนวนจึงได้ตกลงกันต่างถอนฟ้องคดีของตนไปและให้โจทก์เป็นผู้ฟ้องจำเลยที่ 1,2,3,4 เป็นคดีใหม่เพื่อสะดวกในการดำเนินคดีของคู่ความทั้งสองฝ่ายดังนี้แม้โจทก์จะฟ้องคดีใหม่นั้นเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 เข้าแย่งการครอบครอง ก็ไม่ทำให้คดีใหม่ของโจทก์ขาดอายุความการถอนฟ้องและฟ้องใหม่ในกรณีเช่นนี้ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ที่จะฟ้องไว้เดิมเสื่อมเสียแต่ประการใดและกรณีไม่เข้ามาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์หาว่าจำเลยที่ 1, 2 บุกรุกเข้ามาในที่ของโจทก์เมื่อเดือน 8 พ.ศ. 2499 โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2500 ภายในระยะเวลา 1 ปี ปรากฏตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ 79/2501 ของศาลจังหวัดชลบุรี คดีนั้นมีการทำแผนที่พิพาท โจทก์ได้นำชี้ที่ทั้งหมด 90 ไร่ จำเลยที่ 3-4 คัดค้านว่าโจทก์นำชี้รุกล้ำที่ของจำเลย จำเลยที่ 3-4 จึงเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ปรากฏตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ 209/2500 และที่ 208/2500 แต่เพื่อสะดวกในการพิจารณาประเด็นข้อพิพาทคู่ความทุกสำนวนจึงตกลงกันต่างถอนฟ้องไปแล้วให้โจทก์ในคดีนี้เป็นผู้ฟ้องจำเลยที่ 1, 2, 3, 4 เป็นคดีขึ้นใหม่ คือคดีนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง4 เมื่อเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2501 ซึ่งถ้านับแต่วันจำเลยที่ 1, 2 โต้เถียงสิทธิของโจทก์ จนถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ก็เป็นเวลาเกิน 1 ปี ปัญหาได้มาสู่ศาลฎีกาว่าคดีจะขาดอายุความตามมาตรา 174 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามที่จำเลยที่ 1, 2 ฎีกาหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่าเรื่องนี้โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ 1, 2 ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่จำเลยที่ 1, 2 เข้าแย่งการครอบครองแล้ว แต่โจทก์จำเลยตกลงกันให้โจทก์ถอนฟ้องมายื่นฟ้องใหม่รวมจำเลยทั้ง 4 คนเสียในสำนวนเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการดำเนินคดีของคู่ความทั้งสองฝ่าย การถอนฟ้องและฟ้องใหม่นี้ไม่ทำให้สิทธิของโจทก์ที่ฟ้องไว้เดิมเสื่อมเสียแต่ประการใด กรณีไม่เข้ามาตรา 174 ที่ จำเลยที่ 1, 2 ยกขึ้นอ้าง ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น ศาลฎีกาพิพากษายืน