แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเช่าห้องพิพาทจากสำนักงานทรัพย์สิน ฯ แล้วจำเลยให้โจทก์เช่าต่อ 1 ห้องแต่โจทก์เข้าอยู่ 2 ห้อง จำเลยย่อมมีอำนาจฟ้องแย้งให้ขับไล่โจทก์ออกจากห้องที่จำเลยไม่ได้ให้เช่า และเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญา ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยจดทะเบียนการเช่าตึกแถวเลขที่ ๙ และ ๙/๑ ต่อนายอำเภอสัมพันธวงศ์ให้แก่โจทก์ตามเงื่อนไขในสัญญา และให้จำเลยเจาะเพดานตึกแถวชั้นที่ ๒ ของห้องหมายเลข ๙ เพื่อขึ้นไปสู่ดาดฟ้าโดยค่าใช้จ่ายของจำเลยเอง ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติก็ขอให้ใช้เงินแทน
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ผิดสัญญาและฟ้องแย้งขอให้ขับไล่โจทก์แลบริวารออกจากห้องเลขที่ ๙/๑ และให้ใช้ค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ให้ขับไล่โจทก์และบริวารออกจากห้องเลขที่ ๙/๑ ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย ๖๕๐ บาทและอีกเดือนละ ๕๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบห้องคืนให้จำเลย
โจทก์อุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยไปจดทะเบียนการเช่าตึกแถวห้องหมายเลขที่ ๙ ต่อนายอำเภอสัมพันธวงศ์ให้แก่โจทก์ตามสัญญาเช่าท้ายฟ้อง ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ประเด็นเรื่องฟ้องแย้ง ฟังว่าห้องเลขที่ ๙/๑ เป็นคนละห้องกับห้องเลขที่ ๙ ที่โจทก์เช่าจากจำเลย และโจทก์เข้าไปใช้สิทธิในห้องเลขที่ ๙/๑ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากจำเลย เป็นการละเมิดสิทธิจำเลย จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าห้องนี้มาจากสำนักงานทรัพย์สินฯ ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่โจทก์และเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ได้
พิพากษายืน