แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยให้สืบพยานจำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่อไป ซึ่งจะทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่บังคับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชำระหนี้แก่โจทก์ถูกยกเลิกเพิกถอนไปได้ เท่ากับให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และให้สืบพยานต่อไป จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันชำระเงินจำนวน 1,014,172.59 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ โดยให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ในวงเงินต้นไม่เกิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 เลื่อนคดี และสั่งงดสืบพยานของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นการอุทธรณ์คำสั่งงดสืบพยานของศาลชั้นต้นโดยขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น ให้สืบพยานจำเลยที่ 1 และที่ 2 และมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี เท่ากับเป็นการอุทธรณ์กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาชำระตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 จึงไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 คืนค่าขึ้นศาล 200 บาท
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกาว่าอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่งบสืบพยานจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ที่จะต้องนำค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์นั้น เห็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยให้สืบพยานจำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่อไปซึ่งจะทำให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่บังคับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชำระหนี้แก่โจทก์ถูกยกเลิกเพิกถอนไปได้ เท่ากับให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น และให้สืบพยานต่อไป จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์ จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ ที่ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 ที่ 2 มานั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน