คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6235/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์คิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าซึ่งเป็นอักษรโรมันคำว่าSunstar ทั้งที่เป็นคำตามลำพังและคำที่อยู่ในรูปสี่เหลี่ยมตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทะแยงมุมขึ้นในปี 2489 และใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้ายาสีฟันเมื่อปี 2489 แปรงสีฟันเมื่อปี 2496เครื่องสำอางและแชมพูเมื่อปี 2503 และต่อมาได้ใช้กับสินค้าของโจทก์ที่ส่งไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศไทยเมื่อปี 2496และในประเทศอื่น ๆ อีก 16 ประเทศ ส่วนจำเลยได้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองแบบดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2522ในลักษณะที่เหมือนกันทุกประการ โดยที่ในขณะนั้นจำเลยยังไม่ได้ผลิตสินค้าใด ๆ ออกจำหน่าย ทั้งปรากฏว่าจำเลยหาได้มีวัตถุประสงค์ในการผลิตสินค้าประเภทแปรงสีฟันยาสีฟันและแชมพู ซึ่งเป็นสินค้าที่จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแต่อย่างใดไม่ ที่จำเลยไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองแบบดังกล่าวก็มาจากการที่จำเลยเห็นเครื่องหมายการค้าซึ่งปรากฏอยู่ที่สินค้าของโจทก์ดังนี้ โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวมาก่อนจำเลยเป็นเวลา30 ปีเศษ โจทก์ย่อมมีสิทธิในเครื่องหมายการค้านี้ดีกว่าจำเลยและขอให้เพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า Sunstar ทั้งที่เป็นคำตามลำพังและคำที่อยู่ในรูปสี่เหลี่ยมตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทะแยงมุม โดยใช้เป็นทั้งเครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้าของโจทก์ในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศมากกว่า10 ปี รวมทั้งได้โฆษณาและส่งสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นเวลา 10 ปีแล้ว จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายของสาธารณชนทั่วไป และโจทก์ยังได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ไว้ในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2529 โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวของโจทก์สำหรับใช้กับสินค้าจำพวก50 รายการสินค้าแปรงสีฟัน แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าแจ้งว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่จำเลยจดทะเบียนไว้ก่อนแล้ว จึงรับจดทะเบียนให้ไม่ได้โจทก์ตรวจสอบพบว่าจำเลยนำเอาเครื่องหมายการค้าคำว่า Sunstar และคำว่า Sunstar ในรูปสี่เหลี่ยมที่ตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทแยง*มุมไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในลักษณะรวมกัน ใช้กับสินค้าจำพวก 48 และ 50 โดยจำเลยได้รู้จักเครื่องหมายการค้าทั้งหมดของโจทก์มาก่อน แต่ด้วยความไม่สุจริตประสงค์จะแสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงและเกียรติคุณในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จึงแอบนำเอาเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไปจดทะเบียนเพื่อใช้กับสินค้าแปรงสีฟันซึ่งเป็นสินค้าชนิดเดียวกับสินค้าโจทก์ ขอให้พิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า Sunstar ทั้งที่เป็นคำตามลำพัง และเป็นคำที่อยู่ในรูปสี่เหลี่ยมที่ตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทะแยงมุม และโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดังกล่าวทั้งหมดดีกว่าจำเลย ให้จำเลยถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าทะเบียนเลขที่ 70520 ทะเบียนเลขที่ 103073 และทะเบียนเลขที่ 70514หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยและห้ามจำเลยใช้ ยื่นขอจดทะเบียนหรือเข้าเกี่ยวข้องใด ๆกับเครื่องหมายการค้าทั้งหมดของโจทก์ และรวมทั้งคำว่า ซันสตาร์และเครื่องหมายการค้าอื่นที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์อีกต่อไป
จำเลยให้การว่า โจทก์มิใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้าตามฟ้องเนื่องจากไม่มีหลักฐานแสดงว่าเป็นเจ้าของตามกฎหมาย จำเลยเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าพิพาทและจดทะเบียนไว้โดยชอบตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2522 หลังจากนั้นจำเลยได้ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าชนิดต่าง ๆ ของจำเลยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศตลอดมาเป็นเวลาเกือบ 10 ปี โดยสุจริตและโดยเปิดเผย จำเลยไม่เคยรู้จักและไม่เคยได้ยินชื่อโจทก์มาก่อน การที่โจทก์นำเอาเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะเดียวกับของจำเลยไปขอจดทะเบียนก็เพราะโจทก์รู้จักเครื่องหมายการค้าของจำเลย และทราบว่าสินค้าของจำเลยเป็นที่นิยมทั่วไป เป็นการกระทำด้วยความไม่สุจริตประสงค์แสวงหาประโยชน์จากชื่อเสียงเกียรติคุณในเครื่องหมายการค้าของจำเลยเพื่อประโยชน์ทางการค้าของโจทก์ การที่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่รับจดทะเบียนให้โจทก์เป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า Sunstar ทั้งที่เป็นคำลำพังและเป็นคำซึ่งอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมที่ตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทะแยงมุมตามฟ้อง ให้จำเลยดำเนินการถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้า (ที่ถูกน่าจะเป็นให้เพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้า) ทะเบียนเลขที่ 70520 ทะเบียนเลขที่ 103073และทะเบียนเลขที่ 70514 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตามฟ้องดีกว่าจำเลยนั้น ได้ความจากพยานหลักฐานของโจทก์ว่า โจทก์คิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าซึ่งเป็นอักษรโรมันคำว่า Sunstar ทั้งที่เป็นคำตามลำพังและคำที่อยู่ในรูปสี่เหลี่ยมตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทะแยงมุมขึ้นในปี 2489 และใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้ายาสีฟันของโจทก์เมื่อปี 2489 ใช้กับสินค้าแปรงสีฟันเมื่อปี 2496 ต่อมาใช้กับสินค้าเครื่องสำอางและแ*ชมพูเมื่อปี 2503 และต่อมาได้ใช้กับสินค้าของโจทก์ที่ส่งไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศไทยเมื่อปี 2496 โจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าซึ่งเป็นอักษรโรมันคำว่า Sunstarและอักษรโรมันคำว่า Sunstar ในรูปสี่เหลี่ยมที่ตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทะแยงมุมในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2515 และต่อมาก็จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเพิ่มเติมสำหรับสินค้าประเภทต่าง ๆ รวม 20 ทะเบียน โจทก์ยังได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศอื่น ๆ อีก 16 ประเทศ จำเลยไม่ได้นำสืบโต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นจึงฟังได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามพยานหลักฐานของโจทก์ ส่วนจำเลยนำสืบว่าจำเลยได้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองแบบดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2522 จะเห็นได้ว่าโจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวมาก่อนจำเลยเป็นเวลา 30 ปีเศษโจทก์ย่อมมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าจำเลยที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเพราะชื่อนิติบุคคลที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าส่วนใหญ่ไม่ใช่ชื่อโจทก์นั้นปรากฏว่า ชื่อต่าง ๆ ของโจทก์ และของสาขาของโจทก์ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.38 ซึ่งจำเลยก็ไม่ได้นำสืบโต้แย้งว่าไม่ถูกต้องแต่อย่างใด จึงเชื่อได้ว่าโจทก์และสาขาของโจทก์มีชื่อตามที่ระบุไว้ในเอกสารหมาย จ.38 จริง และเมื่อพิจารณาหลักฐานการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.41 ถึง จ.72 ก็ปรากฏว่าได้จดทะเบียนโดยนิติบุคคลที่มีชื่อตามที่ระบุไว้ในเอกสารหมาย จ.38จึงฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ส่วนที่จำเลยอ้างว่าสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เป็นที่แพร่หลาย และไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยก่อนที่จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ทั้งจำเลยคิดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าขึ้นเองนั้น เห็นว่า การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดยังเวิร์ลนำสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าโรมันคำว่า Sunstar และอักษรโรมันคำว่าSunstar ในรูปสี่เหลี่ยมที่ตัดแบ่งครึ่งโดยเส้นทะแยงมุมวางจำหน่ายตามร้านค้าต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2522 และจำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปขอจดทะเบียนในเดือนพฤศจิกายน 2522 ในลักษณะที่เหมือนกันทุกประการไม่มีผิดเพี้ยนทั้งสองแบบ โดยที่ในขณะนั้นจำเลยยังไม่ได้ผลิตสินค้าใด ๆ ออกจำหน่ายอันจะมีเหตุจำเป็นที่ต้องมีเครื่องหมายการค้า ยิ่งถ้าดูตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1ก็ปรากฏว่าจำเลยหาได้มีวัตถุประสงค์ในการผลิตสินค้าประเภทแปรงสีฟันยาสีฟัน และแชมพู ซึ่งเป็นสินค้าที่จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแต่อย่างใดไม่ พฤติการณ์ดังกล่าวมีเหตุผลให้เชื่อว่าที่จำเลยไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้งสองแบบดังกล่าวก็น่าจะมาจากการที่จำเลยเห็นเครื่องหมายการค้าซึ่งปรากฏอยู่ที่สินค้าของโจทก์จากร้านค้าต่าง ๆ นั่นเอง เพราะไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่จำเลยจะไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าที่จำเลยยังไม่ได้ผลิตและไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะผลิต ทั้งหลังจากที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้วจำเลยก็ไม่เคยผลิตสินค้าดังกล่าวออกจำหน่ายจนกระทั่งบัดนี้ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share