แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายพร้อมคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์และส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่โจทก์แต่เจ้าหน้าที่ศาลได้จ่ายหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์เพื่อส่งให้แก่โจทก์ทางไปรษณีย์โดยไม่ปรากฏว่าได้มีการส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่โจทก์ เชื่อว่าโจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา การที่ศาลชั้นต้นให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลฎีกา ถือว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาโดยที่ยังไม่ได้ส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่โจทก์เพื่อให้โจทก์มีโอกาสคัดค้านคำร้องก่อน ย่อมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ ไม่มีผลทำให้อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าวโดยชอบได้ และถือได้ว่าเป็นกรณีไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการยื่นหรือการส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่นๆ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ภว 3410 กรุงเทพมหานคร ไว้จากนางวันเพ็ญ ในประเภทรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยสิ้นเชิง มีอายุกรมธรรม์คุ้มครองตามสัญญาประกันภัย 1 ปี จำเลยที่ 2 เป็นมารดาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรในการดูแลจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรผู้เยาว์จนก่อให้เกิดเหตุในคดีนี้ จำเลยที่ 3 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน พวษ กท 298 และเป็นตัวการของจำเลยที่ 1 มอบหมายสั่งการให้จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปในขณะเกิดเหตุเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของตนหรือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2548 เวลาประมาณ 00.50 นาฬิกา ขณะที่นายศรราม ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ภว 3410 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเอาประกันภัยไว้แก่โจทก์มาตามถนนพุทธมณฑลสาย 4 จากด้านกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษมด้วยความระมัดระวังและด้วยความเร็วไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุจุดกลับรถหน้าโรงเรียนเทพนิมิตร ขณะนั้นมีรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน พวษ กท 298 ขับโดยจำเลยที่ 1 มีนายนาวิน โดยสารมาด้วย จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเข้ามาในช่องกลับรถด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังกลับรถตัดหน้ารถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้ในระยะกระชั้นชิดเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนกันจำเลยที่ 1 และนายนาวินได้รับบาดเจ็บ รถยนต์คันที่โจทก์รับประกันภัยไว้ได้รับความเสียหาย โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้จัดการซ่อมแซมรถยนต์คันดังกล่าวให้อยู่ในสภาพดีใช้การได้เหมือนเดิมและส่งมอบรถยนต์คืนให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้ว โจทก์เสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ค่าแรง และค่าอะไหล่รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 23,666 บาท โจทก์จึงได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมายที่จะเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสาม ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 24,849 บาท และดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามให้การว่า จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน พวษ กท 298 ของจำเลยที่ 3 ด้วยความระมัดระวัง เหตุละเมิดเกิดจากความประมาทของนายศรรามซึ่งขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ภว 3410 กรุงเทพมหานคร ด้วยความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ต่อมานายศรรามได้แถลงต่อศาลจังหวัดนครปฐมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวว่า ไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายในส่วนของรถยนต์ที่ถูกจำเลยที่ 1 ขับเฉี่ยวชน ทำให้สิทธิของผู้เอาประกันภัยระงับไป โจทก์ไม่อาจรับช่วงสิทธิได้ตามกฎหมาย จำเลยที่ 2 ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลแล้ว จำเลยที่ 3 ไม่ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 1 กระทำการใดๆ แทน ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตและให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 3 ออกจากสารบบความ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขอสละประเด็นข้อต่อสู้ตามคำให้การ คงขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเพียงประเด็นเดียวว่า เมื่อนายศรรามผู้เสียหายปลดหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 แล้วทำให้หนี้ในมูลละเมิดระงับไปและโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 24,849 บาท และดอกเบี้ย โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ บัญญัติหลักเกณฑ์ในการอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาว่า ผู้อุทธรณ์จะต้องทำเป็นคำร้องมาพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ เมื่อศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์และส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์และคำร้องแก่จำเลยอุทธรณ์แล้ว หากไม่มีคู่ความอื่นยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามมาตรา 223 และจำเลยอุทธรณ์มิได้คัดค้านคำร้องดังกล่าวต่อศาลภายในกำหนดเวลายื่นคำแก้อุทธรณ์ ก็ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งคำร้องนั้นว่าจะอนุญาตหรือไม่ และให้คำสั่งของศาลชั้นต้นเป็นที่สุด คดีนี้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายพร้อมคำร้องขอนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์และสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่โจทก์ ข้อเท็จจริงปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ว่า เจ้าหน้าที่ศาลได้จ่ายหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์เพื่อส่งให้แก่โจทก์ทางไปรษณีย์ โดยไม่ปรากฏว่าได้มีการส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่โจทก์แต่อย่างใด ประกอบกับโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์ระบุให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเชื่อว่าโจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา การที่ศาลชั้นต้นให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลฎีกา ถือว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้ โดยที่ยังไม่ได้ส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาแก่โจทก์เพื่อให้โจทก์มีโอกาสคัดค้านคำร้องก่อน ย่อมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ ไม่มีผลทำให้อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าวโดยชอบได้ และถือได้ว่าเป็นกรณีที่ไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการยื่นหรือการส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่นๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ศาลฎีกาเห็นสมควรให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาในส่วนนี้ใหม่ให้ถูกต้อง แต่เนื่องจากคดีนี้ได้พ้นระยะเวลาที่โจทก์จะยื่นคำแก้อุทธรณ์แล้วจึงเห็นสมควรกำหนดระยะเวลาให้โจทก์ยื่นคำคัดค้านไว้ด้วย”
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งสำเนาคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ โดยกำหนดไว้ในหมายนัดว่า หากโจทก์จะคัดค้านคำร้องดังกล่าวก็ให้ยื่นคำคัดค้านภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันรับสำเนาคำร้อง มิฉะนั้นถือว่าไม่ติดใจคัดค้าน แล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ