คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6223/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เสียให้ถูกต้องเป็นการดำเนินการแทนศาลอุทธรณ์ภาค 4 เฉพาะการแจ้งให้ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดเท่านั้น เมื่อศาลชั้นต้นปฏิบัติและแจ้งผลการดำเนินการว่าผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 โดยชอบแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จึงมีคำสั่งว่าผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์และให้จำหน่ายคดีจากสารบบความศาลอุทธรณ์ภาค 4 แม้ผลคดีเรื่องนี้จะเสร็จสิ้นไปจากศาลอุทธรณ์ภาค 4 ก็ตาม แต่ผู้ร้องก็ได้ยื่นคำร้องคัดค้านว่าการส่งหมายนัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะมิได้จัดส่งไปยังภูมิลำเนาของผู้ร้อง ภายใน 8 วันนับแต่วันที่ผู้ร้องทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคสอง หากข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องของผู้ร้อง กระบวนพิจารณาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 ย่อมเป็นการไม่ชอบเป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 หลงผิดมีคำสั่งจำหน่ายคดีของผู้ร้องออกจากสารบบความ ทางแก้ คือ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพิกถอนกระบวนพิจารณาผิดระเบียบได้ หาใช่เรื่องที่ผู้ร้องจะต้องแก้ไขโดยใช้สิทธิฎีกาเพียงทางเดียว แม้การที่ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนแล้วมีคำสั่งเสียเองโดยลำพังให้เพิกถอนคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ซึ่งเป็นศาลสูงกว่า เป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ซึ่งเป็นศาลสูงกว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ปรากฏว่าก่อนไต่สวนคำร้องศาลชั้นต้นได้ส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องแก่โจทก์และจำเลยทราบโดยชอบแล้ว โจทก์และจำเลยมิได้คัดค้านทั้งปรากฏว่าผู้ร้องได้วางเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ถูกต้องครบถ้วนแล้วตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงเห็นสมควรที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จะรับคดีไว้พิจารณาพิพากษาในประเด็นที่ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเรื่องเพิกถอนการขายทอดตลาด

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากมีการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดเลขที่ 49029 ตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ แต่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่าผู้ร้องต้องทำเป็นอุทธรณ์คำสั่งและจดรายงานกระบวนพิจารณาให้ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ให้ถูกต้องครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด
ศาลชั้นต้นส่งสำนวนคืนศาลอุทธรณ์ภาค 4 แจ้งว่ามีหมายแจ้งให้ผู้ร้องนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันรับหมายแล้วแต่เมื่อครบกำหนดผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งว่า เมื่อผู้ร้องไม่นำเงินมาชำระค่าขึ้นศาลในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจึงเป็นการทิ้งอุทธรณ์ ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ภาค 4
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2554 ศาลชั้นต้นอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4ให้ผู้ร้องฟังแล้ว ต่อมาวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า เจ้าหน้าที่ศาลนำหมายนัดส่งให้ผู้ร้องที่บ้านซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของผู้ร้อง จึงเป็นการส่งหมายนัดให้แก่ผู้ร้องโดยไม่ชอบ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งว่าผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์จึงเป็นการผิดหลง ถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาผิดระเบียบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 วรรคหนึ่ง จึงให้เพิกถอนคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 4 โดยหากผู้ร้องจะอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดต่อไป ให้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันนี้ (มีคำสั่งวันที่ 19 มีนาคม 2555) มิฉะนั้นจะถือว่าทิ้งอุทธรณ์
ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม 2555 ผู้ร้องนำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระแล้ว ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณา
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายที่เสียหายได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างที่ศาลมิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการส่งคำคู่ความหรือเอกสารและผู้ร้องได้ยกขึ้นว่ากล่าวไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่ได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้าง และผู้ร้องมิได้ดำเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบ เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วเห็นว่าเป็นการสั่งโดยผิดหลงจึงให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบในเรื่องดังกล่าวแทนศาลอุทธรณ์ภาค 4 อันเป็นการดำเนินการแทนศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพราะเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ให้ถูกต้อง เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระค่าขึ้นศาลภายในกำหนด 15 วัน ผู้ร้องก็ได้ชำระตามคำสั่ง ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นยังดำเนินกระบวนพิจารณาแทนศาลอุทธรณ์ภาค 4 จึงย่อมมีอำนาจสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 นั้น เห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เสียให้ถูกต้องเป็นการดำเนินการแทนศาลอุทธรณ์ภาค 4 เฉพาะการแจ้งให้ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดเท่านั้น เมื่อศาลชั้นต้นปฏิบัติและแจ้งผลการดำเนินการว่าผู้ร้องทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 โดยชอบแล้วไม่ปฏิบัติคำสั่งของศาล ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จึงมีคำสั่งว่าผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์คำสั่งและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ภาค 4 แม้ผลคดีเรื่องนี้จะเสร็จสิ้นไปจากศาลอุทธรณ์ภาค 4 ก็ตาม แต่ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องคัดค้านเรื่องผิดระเบียบภายใน 8 วัน นับแต่วันที่ผู้ร้องทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 วรรคสอง ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาและมีคำสั่งด้วยแสดงว่าผู้ร้องมิได้ประสงค์จะให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าวและหากข้อเท็จจริงเป็นดังคำร้องของผู้ร้อง กระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 4 ย่อมเป็นการไม่ชอบเป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 หลงผิดมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีผู้ร้องจากสารบบความทางแก้คือผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบได้ หาใช่เรื่องที่ผู้ร้องจะต้องแก้ไขโดยใช้สิทธิฎีกาเพียงทางเดียว การที่ศาลชั้นต้นก้าวล่วงอำนาจของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไปนัดไต่สวนแล้วมีคำสั่งเสียเองโดยลำพังแม้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้เพิกถอนคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ซึ่งเป็นศาลสูงกว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ปรากฏว่าก่อนไต่สวนคำร้องศาลชั้นต้นได้ส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องแก่โจทก์และจำเลยทราบโดยชอบแล้ว โจทก์และจำเลยมิได้คัดค้านทั้งปรากฏว่าผู้ร้องได้วางเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาถูกต้องครบถ้วนแล้ว ตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงสมควรที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 จะรับคดีไว้พิจารณาพิพากษาในประเด็นที่ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเรื่องเพิกถอนการขายทอดตลาดต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
อนึ่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีโดยไม่ได้สั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษากลับให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้เป็นพับ

Share