คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญายกที่ดินให้แก่เขาเพื่อตอบแทนในการที่เขาออกเงินวิ่งและเต้นให้เป็นความกับบุคคลอื่นจนได้ที่ดินมานั้น แม้สัญญายกให้นี้จะตกเป็นโมฆะโดยขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศิลธรรมอันดีของประชาชนก็ดีแต่ก็ยังเข้าลักษณะตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา 411 ที่ว่าบุคคลใดได้กระทำการเพื่อชำระหนี้เป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตาม ก.ม.หรือศีลธรรมอันดี ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้งแปดสมคบกันบุกรุกที่ดินที่พิพาทของโจทก์ จึงขอให้บังคับจำเลยและบริวารอย่าให้เกี่ยวข้องในที่พิพาทและให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ได้ทำสัญญายกที่พิพาทให้จำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ได้ครอบครองมาเกิน ๑ ปีแล้ว เป็นที่ไม่มีหนังสือสำคัญ คดีของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน แล้วฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาในคดีอาญาที่ ๙๒๓/๒๔๙๐ ว่าสัญญายกให้ ฉะบับที่ว่านี้เป็นสัญญาที่โจทก์เจตนายกที่พิพาทรายนี้ให้จำเลยที่ ๑ เพื่อเป็นการชำระหนี้ตอบแทนในการที่จำเลยที่ ๑ ได้ออกเงินและวิ่งเต้นช่วยโจทก์ให้เป็นความกับนายหมะ จนได้ที่ดินมา การเอาที่ดินตีใช้หนี้ย่อมทำได้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๓๒๑ ซึ่งผู้ชำระหนี้จะใช้สิทธิติดตามเอาคืนไม่ได้ แม้ศาลฎีกาจะได้วินิจฉัยว่าสัญญาฉะบับนี้ตกเป็นโมฆะโดยขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกคืนตามมาตรา ๔๑๑ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นด้วยกับข้อวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ว่าต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา จึงต้องฟังข้อเท็จจริงดังที่กล่าวแล้ว และเห็นว่าสัญญายกให้ฉะบับที่กล่าวนี้ เป็นสัญญาทำขึ้นโดยตกลงให้ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการเป็นความ นับได้ว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนก็ตาม ลักษณะของคดีนี้เข้าบทมาตรา +๑๑ แห่ง ป.ม.แพ่งฯที่ว่า บุคคลใดได้กระทำการเพื่อชำระหนี้เป็นการอันฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ท่านว่าบุคคลนั้นหาอาจจะเรียกร้องคืนทรัพย์ได้ไม่
จึงพิพากษายืน

Share