แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลทหารกลางมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์บรรทุกโดยประมาทชนกับรถยนต์บรรทุกของผู้ตายที่แล่นสวนทางมาเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตาม พ.ร.บ.ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498 มาตรา54 และ ป.วิ.อ. มาตรา 46 แต่ข้อเท็จจริงดังกล่าวคงผูกพันเฉพาะจำเลยที่ 2เท่านั้น จะนำมาใช้ให้เป็นการผูกพันจำเลยที่ 1 ด้วยหาได้ไม่ เพราะจำเลยที่ 1มิได้เป็นคู่ความหรือผู้เสียหายในคดีดังกล่าว จำเลยที่ 1 ยังอาจยกข้อต่อสู้และนำสืบในคดีนี้ได้ว่า จำเลยที่ 2 มิได้เป็นฝ่ายทำละเมิด หากแต่ผู้ตายเป็นฝ่ายขับรถโดยประมาทเลินเล่อเอง หรือมีส่วนร่วมประมาทเลินเล่อกับจำเลยที่ 2 ซึ่งโจทก์มีหน้าที่นำสืบให้ได้ความดังกล่าว
จำเลยที่ 2 ขับรถไปในราชการของจำเลยที่ 1 ด้วยความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้บุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลและเป็นผู้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ด้วย ตามป.พ.พ. มาตรา 76