แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กล่าวในฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานโดยไม่ระบุว่าเจ้าพนักงานอะไร ขอให้ลงโทษตามมาตรา 334 ข้อ 1 เช่นนี้ ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้มิได้ การที่จำเลยเข้าใจตนว่าอยู่ในฐานะเสมือนผู้ต้องหาและตอบคำถามของเจ้าพนักงานอันไม่ตรงกับความจริง เพื่อให้ตนพ้นผิดนั้นไม่เรียกว่าเป็นการแจ้งความตามมาตรา 118 เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามโจทก์ฟ้องแล้วแม้จำเลยจะได้ให้การรับสารภาพก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิดไปได้ การขอเพิ่มเติมฟ้องนั้นจะต้องเป็นหารยื่นคำร้อง จะขอสืบพะยานเอาเองนั้น+ได้ไม่
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ใช้โคเทียมเกวียนลากไม้ของนายเมืองซึ่งตัดพันโดยผิดจากข้อความในใบอนุญาต ในระหว่างทางที่จำเลยชักลากไม้มานั้น เจ้าพนักงานได้ถามชื่อจำเลยและโคเกวียนที่จำเลยใช้ลากไม้มานั้น จำเลยมีเจตนาทุจจริตนำความที่จำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จมาแจ้งแก่เจ้าพนักงานว่าจำเลยชื่อนายจั๋น จี่ทอง ส่วนโคที่เทียมเกวียนยืนมาจากนายใจ ซึ่งความจริงจำเลยชื่อนายดวน ไชมา ไม่ใช่ชื่อนายจั๋นจี่ทองทั้งความจริงนายจั๋นจี่ทองก็ไม่ได้ยืมโคมาจากนายใจ การกระทำของจำเลยอาจเสียหายแก่เจ้าพนักงาน นายจั๋นจี่ทองและนานใจได้ขอให้ ลงโทษตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๑๑๘,๓๓๔
จำเลยรับสารภาพโจทก์จะขอสืบว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานอะไรข้อนี้ข้อเดียว
ศาลจังหวัดลำพูนเห็นว่าโจทก์จะขอสืบเป็นทำนองเพิ่มเติมฟ้องเพื่อให้ได้ความขัดเช่นนี้ไม่ได้ จึงให้งดสืบพะยานโจทก์และพิพากษาว่า การที่โจทก์กล่าวหาว่าเจ้าพนักงานได้สอบถามชื่อ จำเลยในระหว่างทางที่จำเลยกำลังลากไม้มาจำเลยแกล้งบอกชื่อเท็จเป็นชื่อคนอื่นนั้น หาเป็นความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม กฎหมายอาญามาตรา ๓๓๔ ข้อ ๑ เท่านั้น แต่ทั้งนี้จักต้องเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเท่านั้น แต่ทั้งนี้จักต้องเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเท่านั้นจะเป็นเจ้าพนักงานอื่นหาได้ไม่ฟ้องโจทก์กล่าวว่าจำเลยแจ้งแก่เจ้าพนักงานจะเป็นเจ้าพนักงานชะนิดใดแผนกใดหาทราบไม่ฟ้อง โจทก์ข้อนี้ไม่ชัดแจ้งเป็นฟ้องเคลือบคลุมแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพทุกข้อทุกประการก็ดี จะลงโทษจำเลยมิได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๔ ข้อ ๑ นั้นต้องมีพนักงานตรวจตระเวนเป็นผู้ถามตามฟ้องขอโจทก์กล่าวแต่ลอย ๆว่า เป็นเจ้าพนักงานจึงขาดองค์แห่งการที่จะเป็นผิดตามมาตรานี้ แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ดี ก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิดไปได้ ส่วนที่ โจทก์ขอให้ ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๑๘ นั้น ก็ต้องเป็นเรื่องมาปจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน แต่คดีนี้ จำเลยถูกถามในระวางทางที่ จำเลยชักลากไม้ของนายเมืองซึ่งตัดฟันผิดจากข้อความในใบอนุญาตมา จำเลยเป็นเสมือนผู้ต้องหา การที่จำเลยตอบเป็นการแสดงแก้ตัวเพื่อให้พ้นผิดนั้นหาเป็นการแจ้งความไม่ แม้จำเลยรับสารภาพก็ไม่ทำให้จำเลยมีความผิด อนึ่งที่โจทก์ขอสืบพะยานเป็นการเพิ่มเติมฟ้องให้สมบูรณ์ขึ้นและศาลสั่งงดเสียนั้นชอบแล้ว เพราะการเพิ่มเติมฟ้องจะต้องยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมจะขอเพิ่มเติมโดยขอสืบพะยานเอานั้นไม่ได้จึงพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสอง