คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6192/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป. ได้ออกเงินชำระหนี้เงินกู้ของ ด.ให้ช.ด. จึงยกที่พิพาทให้แก่ ป. ตั้งแต่ปี 2497 ต่อมา ป.ให้ ล. และจำเลยที่ 1 เช่าที่พิพาททำนาหลังจากนั้นป.ขายที่พิพาทให้แก่โจทก์และได้ส่งมอบที่พิพาทให้โจทก์เข้าครอบครองทำนาในที่พิพาทต่อจากการครอบครองของป.ตั้งแต่ปี 2525 ติดต่อมาจนปัจจุบันแม้การยกให้ที่พิพาทระหว่างป. กับ ด. กับการขายที่พิพาทระหว่าง ป.กับโจทก์ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม แต่การที่ด.ส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้ป. แสดงว่า ด. ได้เจตนาสละการครอบครองที่พิพาทให้แก่ ป. แล้ว การครอบครองของ ด. ย่อมสิ้นสุดลงป. จึงมีสิทธิครอบครองตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1377,1378 ครั้ง ป. ขายที่พิพาทให้แก่โจทก์และส่งมอบที่พิพาทให้โจทก์แสดงว่า ป. ได้เจตนาสละการครอบครองที่พิพาทให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิครอบครองเช่นกัน และในกรณีเช่นนี้โจทก์ย่อมนับระยะเวลาที่ ป.ครอบครองที่พิพาทรวมติดต่อกับระยะเวลาที่โจทก์ครอบครองที่พิพาทเข้าด้วยกันได้ตาม มาตรา 1385 ป. ได้ครอบครองที่พิพาทของ ด. โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตั้งแต่ปี 2497 และโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของสืบต่อจาก ป. ตั้งแต่ปี 2525ตลอดมาเกินกว่าสิบปีแล้วเช่นนี้ โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามมาตรา 1382

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 1204 เฉพาะส่วนเนื้อที่ 18 ไร่ 1 งาน 70 ตารางวา ของนายเดบิดาโจทก์และจำเลยทั้งสองเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์ ห้ามจำเลยทั้งสองและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่ดินอีกต่อไป
จำเลยทั้งสองให้การว่า นายเดถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 11พฤษภาคม 2501 ขณะยังมีชีวิตอยู่นายเดทำนาในที่พิพาท ไม่เคยประกาศจะยกให้แก่บุตรคนใด เนื่องจากจำเลยทั้งสอง โจทก์ นายประดิษฐ์ นางเหลี่ยม และนายวิชาญ วรรณกูล ซึ่งเป็นบุตรรวบรวมเงินกันชำระหนี้ให้นายเดช นายประดิษฐ์ ไม่เคยครอบครองที่พิพาท เมื่อนายเดถึงแก่ความตายนางเหลี่ยมครอบครองทำนา ต่อมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายจากนั้นจำเลยที่ 1 ก็เข้าครอบครองทำนาต่อจนถึงปี 2528 จึงเปลี่ยนให้โจทก์เป็นผู้ทำนาในที่พิพาทจนถึงปัจจุบัน จำเลยที่ 1ไม่เคยนำที่พิพาทไปขายให้แก่โจทก์ การครอบครองที่พิพาทของโจทก์เป็นการครอบครองแทนทายาทเท่านั้น โจทก์จึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท เมื่อจำเลยที่ 1 ได้เป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลแล้วจำเลยทั้งสองรับโอนมรดกที่พิพาทมาไว้ก่อนเนื่องจากยังตกลงแบ่งกันไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ 1204 เฉพาะส่วนของนายเด เจ๊ะหมัด เนื้อที่ 18 ไร่ 1 งาน 70 ตารางวา ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์ ห้ามจำเลยทั้งสองและบริวารเข้าเกี่ยวข้องอีกต่อไป
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสองว่า การที่นายประดิษฐ์ได้รับที่ดินพิพาทโดยการยกให้จากนายเดก็ดี และการที่นายประดิษฐ์ได้ขายที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ก็ดี โดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น โจทก์ผู้ครอบครองที่พิพาทในปัจจุบันได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงว่านายประดิษฐ์ได้ออกเงินชำระหนี้เงินกู้ของนายเดให้นายเดชนายเดจึงยกที่ดินพิพาทให้แก่นายประดิษฐ์ตั้งแต่ปี 2497 โดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และนายประดิษฐ์ให้นางเหลี่ยมและจำเลยที่ 1 เช่าที่พิพาททำนา ต่อมาปี 2525 นายประดิษฐ์ขายที่พิพาทให้แก่โจทก์โดยได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เช่นกัน แต่นายประดิษฐ์ได้ส่งมอบที่พิพาทให้โจทก์เข้าครอบครองทำนาในที่พิพาทต่อจากการครอบครองของนายประดิษฐ์ ตั้งแต่ปี 2525 ติดต่อมาจนปัจจุบันเห็นว่า แม้การยกให้ที่พิพาทระหว่างนายประดิษฐ์และนายเดกับการขายที่พิพาทระหว่างนายประดิษฐ์กับโจทก์จะไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม แต่การที่นายเดส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้นายประดิษฐ์แสดงว่านายเดได้เจตนาสละการครอบครองที่พิพาทให้แก่นายประดิษฐ์แล้ว การครอบครองของนายเด ย่อมสิ้นสุดลงนายประดิษฐ์จึงมีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377, 1378 ครั้นนายประดิษฐ์ขายที่พิพาทให้แก่โจทก์และส่งมอบที่พิพาทให้โจทก์แสดงว่านายประดิษฐ์ได้เจตนาสละการครอบครองที่พิพาทให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิครอบครองเช่นกันในกรณีเช่นนี้โจทก์ย่อมนับระยะเวลาที่นายประดิษฐ์ครอบครองที่พิพาทรวมติดต่อกับระยะเวลาที่โจทก์ครอบครองที่พิพาทเข้าด้วยกันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1385 เมื่อนายประดิษฐ์ได้ครอบครองที่พิพาทของนายเดโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตั้งแต่ปี 2497 และโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของสืบต่อจากนายประดิษฐ์ตั้งแต่ปี 2525 ตลอดมาเกินกว่าสิบปีแล้วเช่นนี้ โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382
พิพากษายืน

Share