คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้มีหน้าที่ขับรถยนต์ประจำทางได้ใช้หรือมอบให้ผู้อื่นขับรถแทนตนและปล่อยให้ขับในอัตราความเร็วสูงจนเป็นเหตุให้รถคว่ำ มีผู้โดยสารถึงแก่ความตาย การกระทำของผู้มีหน้าที่ขับรถยนต์เช่นนี้ เป็นการละเมิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา420

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดานางสาวบุญเหลือบ ผู้เยาว์ จำเลยที่ ๓ เป็นเจ้าของรถยนต์และนายจ้างของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ จำเลยที่ ๑ เป็นคนขับ ได้มอบให้จำเลยที่ ๒ ขับรถยนต์ของจำเลยที่ ๓ รับส่งคนโดยสาร และสินค้าไปในเส้นทางจำเลยที่ ๒ ขับรถด้วยความประมาทเลินเล่อ ไม่มีใบขับขี่ และขับด้วยความเร็วสูง ในทางโค้งผิดกฎหมาย และจำเลยที่ ๑ ควบคุมไม่ดีพอ เป็นเหตุให้รถยนต์คันนั้นคว่ำมีผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัส ๘ คน และถึงแก่ความตาย ๑ คน คือ นางสาวบุญเลือยบุตรโจทก์ นางสาวบุญเลือย จะเป็นที่พึ่งของโจทก์ต่อไปในภายหน้า โจทก์จึงขอเรียกค่าอุปการะเลี้ยงกูลและสูญเสียบุตรที่รักคิดเป็นเงิน ๒๕,๐๐๐ บาท บาทค่าปลงศพ อีก ๕,๐๐๐ บาท ขอให้จำเลยทั้ง ๓ คนร่วมกันรับผิดใช้เงินจำนวนนี้แก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ให้การสู้คดี ส่วนจำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การแต่โจทก์ไม่ได้ขอให้ศาลสั่งว่า ขาดนัดภายใน ๑๕ วัน ศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ ๒
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นค่าปลงศพ ให้โจทก์ ๓,๐๐๐ บาท คำขอยื่นให้ยก
จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
คดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาในปัญาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ หรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ทางพิจารณาข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ ๑ ได้ใช้หรือมอบให้จำเลยที่ ๒ ขับรถแทน และปล่อยให้ขับในอัตราความเร็วสูงจนเป็นเหตุให้รถคว่ำลง ทำให้นางสาวบุญเลือยบุตรโจทก์ถึงแก่ความตาย จึงต้องถือว่าการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการกระทำโดยผิดกฎหมายอยู่ในตัว และ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๑ ก็ได้บัญญัติไว้ว่าการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ท่านว่า เป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ฯลฯ พิพากษายืน

Share