คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6189/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฯมาตรา 26,37 กำหนดให้ผู้ให้เช่านาต้องบอกเลิกการเช่านาด้วยเหตุตามมาตรา 37 โดยทำเป็นหนังสือให้ผู้เช่านาทราบล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีก่อนจะครบกำหนดการเช่านา เมื่อโจทก์มีหนังสือบอกเลิกการเช่านาไปยังจำเลยก่อนครบกำหนดการเช่าเพียง 8 เดือน และตามหนังสือบอกกล่าวก็มิได้ระบุเหตุการบอกเลิกการเช่านาไปยัง คชก.ตำบล ตามที่มาตรา 37 กำหนดไว้เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย การเช่านายังไม่สิ้นสุดลง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ 13538 ตำบลบางภาษีอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม และชำระค่าเช่าและค่าเสียหายแก่โจทก์รวมกันเป็นเงิน 34,166 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปและให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 5,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนและออกจากที่ดินที่เช่า
จำเลยให้การปฏิเสธ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาทของโจทก์ตามโฉนดเลขที่ 13538ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 5,000 บาท นับแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2532เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะรื้อถอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ ได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 13538 ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลนจังหวัดนครปฐม เนื้อที่ 25 ไร่ โจทก์ให้จำเลยเช่าที่ดินดังกล่าวทำนาครั้งละ 6 ปี ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 การเช่าจะครบกำหนดในวันที่ 20 ตุลาคม 2532โจทก์มีความประสงค์ต้องการที่ดินดังกล่าวคืน ไม่ประสงค์ให้จำเลยเช่าต่อไป โจทก์ได้มีหนังสือแจ้งบอกเลิกการเช่านาถึงจำเลยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2532 อันเป็นเวลาก่อนครบกำหนดการเช่านาพร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งให้ประธานคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลบางภาษีทราบ ศาลฎีกาเห็นว่าพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 26บัญญัติว่า “การเช่านาให้มีกำหนดคราวละไม่น้อยกว่าหกปีการเช่านารายใดที่ทำไว้โดยไม่มีกำหนดเวลา หรือมีแต่ต่ำกว่าหกปีให้ถือว่าการเช่านารายนั้นมีกำหนดเวลาหกปี
เมื่อสิ้นระยะเวลาการเช่านาตามวรรคหนึ่ง ถ้าผู้ให้เช่านามิได้บอกเลิกการให้เช่านาตามมาตรา 37 และผู้เช่านายังทำนาในที่นานั้นต่อไป ให้ถือว่าได้มีการเช่านานั้นต่อไปอีกคราวละหกปีฯลฯ” และมาตรา 37 บัญญัติว่า “เมื่อสิ้นระยะเวลาการเช่านาตามมาตรา 26 การเช่านาไม่สิ้นสุดลง เว้นแต่ผู้ให้เช่านาประสงค์จะใช้นาที่ให้เช่าเพื่อการดังต่อไปนี้ และได้บอกเลิกการเช่านาเป็นหนังสือให้ผู้เช่านาทราบล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(1) ใช้เพื่อประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเองตามความเหมาะสม
(2) ใช้เพื่อประโยชน์แห่งครอบครัวของตนตามความจำเป็น
(3) ใช้เพื่อทำประโยชน์ตามผังเมือง หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น หรือ
(4) ใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่นอันสอดคล้องกับประโยชน์ส่วนรวมในทางเศรษฐกิจตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยร่วมกันกำหนด
ให้ผู้ให้เช่านาส่งสำเนาการบอกเลิกการเช่านาตามวรรคหนึ่งพร้อมทั้งแสดงเหตุการบอกเลิกการเช่านาไปยัง คชก.ตำบลภายในกำหนดสามสิบวัน นับแต่วันที่ส่งหนังสือบอกเลิกการเช่านาให้ผู้เช่านาทราบ เมื่อได้รับสำเนาหนังสือบอกเลิกการเช่านาดังกล่าวแล้วให้ คชก.ตำบล พิจารณาวินิจฉัย ถ้า คชก.ตำบล เห็นว่าผู้ให้เช่านายังไม่มีความจำเป็นรีบด่วนที่จะใช้นาตาม (1) (2) (3)หรือ (4) และการบอกเลิกการเช่านานั้นจะทำให้ผู้เช่านาเดือดร้อนคชก.ตำบลจะวินิจฉัยให้ยับยั้งการบอกเลิกการเช่านาไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นเวลาตามที่เห็นสมควรไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสองปีก็ได้”
ตามบทบัญญัติในมาตรา 26 และมาตรา 37 ดังกล่าวเห็นได้ว่าเมื่อสิ้นระยะเวลาการเช่านาตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง แล้วถ้าผู้ให้เช่านามิได้บอกเลิกการเช่านาตามมาตรา 37 และผู้เช่านายังทำนาในที่นานั้นต่อไป ให้ถือว่าได้มีการเช่านานั้นต่อไปอีกคราวละหกปีและการบอกเลิกการเช่านาต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติของมาตรา 37 ดังกล่าวข้างต้น กล่าวโดยเฉพาะก็คือ ผู้ให้เช่านาต้องบอกเลิกเป็นหนังสือให้ผู้เช่านาทราบล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีก่อนจะครบกำหนดการเช่านาและผู้ให้เช่านาจะบอกเลิกการเช่านาได้ก็ด้วยเหตุตามที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 37แต่คดีนี้ปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์และข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบว่าการเช่านาระหว่างโจทก์และจำเลยจะครบกำหนดในวันที่ 20 ตุลาคม2532 แต่โจทก์มีหนังสือบอกเลิกการเช่าเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2532 การบอกเลิกการเช่านาดังกล่าวจึงเป็นการบอกเลิกก่อนครบกำหนดการเช่าเพียง 8 เดือน เท่านั้นและตามหนังสือบอกกล่าวเอกสารหมาย จ.3 ซึ่งตรงกับสำเนาภาพถ่ายเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 ก็มิได้ระบุเหตุแห่งการบอกเลิกการเช่านาไปยัง คชก.ตำบล ตามที่มาตรา 37กำหนดไว้ การบอกเลิกการเช่านาดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายการเช่านาระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงยังไม่สิ้นสุดลง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share