แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใน คดีอาญา ที่ โจทก์ มี คำขอ ให้ริบ ของกลาง นั้น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 เพียงแต่ บัญญัติ ว่า ใน กรณี ที่ ศาล มี คำสั่ง ให้ริบ ทรัพย์สิน ตาม มาตรา 33 หรือ 34 แล้ว ก็ ให้ เจ้าของ แท้จริง ยื่น คำเสนอ ขอ คืน ต่อ ศาล ภายใน หนึ่ง ปี นับแต่ วัน คำพิพากษาถึงที่สุด ได้ เท่านั้น แต่ หา ตัด สิทธิ เจ้าของ ที่ แท้จริง จะ ขอยื่น คำเสนอ ก่อน เวลา ดังกล่าว ไม่ ฉะนั้น เจ้าของ ที่ แท้จริง จึง มีสิทธิ ยื่น คำร้องขอ คืน ของกลาง ระหว่าง พิจารณา คดี ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 32 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2469 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9 กับขอให้ริบเรือเดินสมุทรชื่อ “ฮะเฮง” และ “ลักษมี” รวม 2 ลำ รถยนต์บรรทุกน้ำมันหมายเลขทะเบียน 70-0201 สตูล 1 คัน ถังบรรจุน้ำมันขนาด 8,000 ลิตร 1 ถัง สายยางดูดน้ำมันยาว 30 เมตร 1 เส้น และเครื่องปั้มของเหลว 1 เครื่อง ของกลาง ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-0201 สตูล ที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งริบ ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจ ในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของรถยนต์ของกลางและผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้คืนรถยนต์บรรทุกสิบล้อหมายเลขทะเบียน 70-0201 สตูล ให้แก่ผู้ร้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาข้อแรกว่า ขณะผู้ร้องยื่นคำร้องศาลยังไม่ได้สั่งริบของกลาง ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอคืนไม่ได้ เห็นว่าในคดีอาญาที่โจทก์มีคำขอให้ริบของกลางนั้น ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 เพียงแต่บัญญัติว่าในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ริบทรัพย์สินตามมาตรา 33 หรือ 34 แล้วก็ให้เจ้าของแท้จริงยื่นคำเสนอขอคืนต่อศาลภายในหนึ่งปีนับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดได้เท่านั้น แต่หาตัดสิทธิเจ้าของที่แท้จริงจะขอยื่นคำเสนอก่อนเวลาดังกล่าวไม่ ฉะนั้นผู้ร้องจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนของกลางระหว่างพิจารณาคดีได้ โจทก์ฎีกาข้อสุดท้ายว่า ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางเพื่อประโยชน์ของนางสาวปาริชาติ จุลมณีโชติ ผู้เช่าซื้อเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต ข้อนี้ นายวิสุทธิ์ ตรีไวย เบิกความเป็นพยานผู้ร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลาง ได้ให้นางสาวปาริชาติเช่าซื้อไป ต่อมานางสาวปาริชาติผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อตั้งแต่งวดที่ 12 ร้อยตำรวจเอก จักรพร แท่นทอง พนักงานสอบสวนเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า ชั้นสอบสวนนางสาวปาริชาติ ให้การว่ารถยนต์ของกลาง นางสาวปาริชาติเช่าซื้อมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2534 ซึ่งสอดคล้องกับทางนำสืบของผู้ร้องได้ให้นางสาวปาริชาติเช่าซื้อรถยนต์ของกลางไปในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2534 เห็นว่า ผู้ร้องมีพยานบุคคลและพยานเอกสารมาแสดง พยานผู้ร้องจึงมีน้ำหนักน่าเชื่อ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์ของกลาง นางสาวปาริชาติได้ให้การชั้นสอบสวนด้วยว่าเมื่อเช่าซื้อมาแล้วได้เข้าร่วมจดทะเบียนประกอบการขนส่งกับบริษัทสตูลขนส่ง จำกัด รับจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป เห็นว่าตามพฤติการณ์ดังกล่าวน่าเชื่อว่านางสาวปาริชาตินำรถยนต์ของกลางไปประกอบการขนส่ง โดยผู้ร้องมิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย ข้อเท็จจริงจึงไม่พอฟังว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางได้ ไม่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต พิพากษายืน