คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ถังเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับสร้างขึ้นเพื่อใช้บรรจุก๊าซแสดงว่าเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับเข้าใช้สอย ต้องถือว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวเป็นอาคารตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯมาตรา4 จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนและไม่ปรากฏว่าถังเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับเพื่อใช้บรรจุก๊าซที่จำเลยสร้างขึ้นมีลักษณะน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นจึงสมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ก. จำเลยก่อสร้างอาคารประเภทคลังสินค้า โดยก่อสร้างอาคารถังเหล็กขนาด 1.70 เมตร จำนวนสองถังพร้อมฐานคอนกรีตรองรับเพื่อใช้บรรจุเก็บของเหลว (ก๊าซ) เพื่อพาณิชยกรรม ข. จำเลยก่อสร้างดัดแปลงอาคาร โดยก่อสร้างแท่นคอนกรีตกว้าง 1 เมตร ยาว3.45 เมตร สูง 30 เซนติเมตร จำนวน 4 แท่น ติดกับเสาอาคารดังกล่าวแท่นละเสา จำนวน 4 เสา และติดตั้งมอเตอร์สำหรับเติมก๊าซบนแท่นคอนกรีตที่สร้างขึ้นทุกแท่นอันเป็นการดัดแปลงอาคารให้ผิดไปจากผังบริเวณและแบบแปลนเดิมที่ได้รับอนุญาต ทั้งสองรายการจำเลยกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเข้าพนักงานท้องถิ่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 2,1 22, 31, 65, 69, 70ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ฟ้องโจทก์ข้อ ก. ว่าจำเลยก่อสร้างอาคารประเภทคลังสินค้านั้น พิเคราะห์แล้ว ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 มาตรา 4 เห็นว่าถังบรรจุก๊าซไม่ใช่คลังสินค้า ซึ่งไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ฟ้องข้อ ข. จำเลยมีความผิดมาตรา 4, 22, 31, 65, 69, 70 ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาทจำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งจำคุก3 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกรอไว้ 2 ปี ฟ้องข้อ ก. ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ให้ลงโทษตามมาตรา 70 การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำอันเกี่ยวกับอาคารพาณิชยกรรม ให้จำคุกมีกำหนด6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน เนื่องจากจำเลยสร้างอาคารประเภทคลังสินค้าเพื่อใช้บรรจุเก็บของเหลว (ก๊าซ)เพื่อพาณิชยกรรมและสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนถึงความปลอดภัยและผาสุขของประชาชนได้ง่าย ทั้งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนอย่างใหญ่หลวง จึงไม่สมควรที่จะได้รับการรอการลงโทษสำหรับความผิดฐานนี้ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยก่อสร้างอาคารประเภทคลังสินค้า โดยที่พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522ไม่มีคำวิเคราะห์ศัพท์คำว่าคลังสินค้าไว้จึงต้องถือตามความหมายทั่ว ๆ ไปที่เข้าใจกัน เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องข้อเท็จจริงจึงยุติว่าเป็นคลังสินค้าอันถือว่าเป็นอาคาร นอกจากนั้น ตามคำฟ้องของโจทก์ก็ปรากฏว่าจำเลยสร้างถุงเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับเพื่อบรรจุเก็บของเหลว (ก๊าซ) อันแสดงให้เห็นว่า เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับเข้าใช้สอย จึงต้องถือว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
…อาคารถังเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับที่จำเลยได้ก่อสร้างเพื่อใช้บรรจุเก็บของเหลว (ก๊าซ) เพื่อพาณิชยกรรมนั้นไม่ปรากฏว่ามีลักษณะน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นและจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน และปรับ40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามมาตรา 56ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”.

Share