คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 617/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจ้างเหมามีข้อความว่า เมื่อผู้ว่าจ้างหรือจำเลยบอกเลิกสัญญา บรรดางานที่ผู้รับจ้างหรือที่โจทก์ได้ทำขึ้นหรือก่อสร้างไว้เพื่องานจ้างทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นงานที่ก่อสร้างเสร็จแล้วหรือไม่ก็ตาม ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยโดยสิ้นเชิงและโจทก์จะเรียกร้องค่าตอบแทนหรือค่าเสียหายใด ๆ จากจำเลยไม่ได้ เมื่อโจทก์ก่อสร้างงานงวดที่ 8 และที่ 9 ยังไม่เสร็จบริบูรณ์ตามสัญญาในที่สุดโจทก์ได้คืนงานส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จแก่จำเลย และจำเลยได้บอกเลิกสัญญาต่อโจทก์แล้ว โจทก์จะเรียกเอาค่าจ้างสำหรับงานงวดที่ 8 และที่ 9 ซึ่งยังก่อสร้างไม่เสร็จจากจำเลยไม่ได้
ส่วนสัญญาจ้างเหมาอีกข้อหนึ่งระบุว่า “หากมีเงินค่าจ้างตามสัญญาที่หักไว้จ่ายเป็นค่าปรับและค่าเสียหายแล้วยังเหลืออยู่อีกเท่าใด ผู้ว่าจ้างจะคืนให้แก่ผู้รับจ้างทั้งหมด” นั้น สำหรับข้อความที่กล่าวถึงเรื่องหากมีเงินค่าจ้างตามสัญญาที่ผู้ว่าจ้างหรือจำเลยหักไว้เป็นค่าปรับและค่าเสียหายเหลืออยู่หลังจากจ้างบุคคลอื่นเข้าไปทำงานที่โจทก์ก่อสร้างค้างไว้จนเสร็จ จำเลยจะจ่ายเงินที่เหลืออยู่นั้นคืนให้แก่โจทก์ทั้งหมด เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเงินค่าจ้างสำหรับงานงวดที่โจทก์ได้ก่อสร้างเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญา ซี่งโจทก์มีสิทธิจะรับไปจากจำเลยแล้ว แต่จำเลยได้หักหรือกันไว้เป็นค่าปรับหรือค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญาของโจทก์ก่อนเท่านั้นเงินดังกล่าวมิได้หมายรวมไปถึงว่าเมื่อจำเลยเลิกสัญญาต่อโจทก์แล้ว แม้โจทก์ทำงานงวดใดยังไม่แล้วเสร็จบริบูรณ์ จำเลยก็จะต้องจ่ายเงินค่าจ้างสำหรับงวดงานที่สร้างไม่แล้วเสร็จโดยจ่ายเท่าผลงานที่โจทก์ก่อสร้างไปแล้วด้วยหาได้ไม่

Share