แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าทุกข์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 6 พ.ค.97 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงซึ่งตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำเดือน 6 แต่ผู้เสียหายและพยานโจทก์ว่าเกิดเหตุเวลากลางคืนขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับวันที่ 5 พ.ค.97
เมื่อคดีได้ความว่าที่ต่างกันนี้เพราะในบรรยายฟ้องโจทก์นับวันเวลาตามสุริยคติคือนับต่อจาก 24.00 น. เป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงไปจนถึง 6.00 น. เป็นอีกวันหนึ่ง แต่ชพยานโจทก์ให้การตามวิธีนับทางจันทรคติสิ้นสุดลงในเวลาย่ำรุ่ง เมื่อคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.97 และเวลา 2 ยามไปแล้ว จึงตรงกับวันที่ 6 พ.ค.97 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้อง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๖ พ.ค.๙๗ เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยสมคบกันลักทรัพย์ของนายก้านไป ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสามปฏิเสธ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษนายสง นายสุดใจ จำเลย แต่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้นายสงจำเลยไม่ได้ จึงให้จำหน่ายคดีเฉพาะตัวนายสงจำเลย คงคำพิพากษาคดีเฉพาะนายสุดใจจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกนายสุดใจตาม ม.๒๙๕ มีกำหนด ๓ ปี ลดโทษตาม ม.๕๙ ให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุกไว้ ๒ ปี ฯลฯ
นายสุดใจจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องวิธีนับวันเวลาตามสุริยคดี คือนับต่อจาก ๒๔.๐๐ น.เป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงไปจนถึง ๖.๐๐ น. แต่พยานโจทก์ให้การตามวิธีนับทางจันทรคติสิ้นสุดลงในเวลาย่ำรุ่ง คดีนี้เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ ๕ พ.ค.๙๗ ล่วงเลยเวลา ๒ ยามไปแล้ว จึงตรงกับวันที่ ๖ พ.ค.๙๗ เวลากลางคืนก่อนเที่ยง ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องตามความเห็นของศาลอุทธรณ์ และเห็นว่าพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด เมื่อถ้อยคำพยานโจทก์ ฟังไม่ได้แล้วลำพังแต่เพียงคำรับสารภาพของจำเลยอย่างเดียวก็ยังไม่พอที่จะฟังลงโทษจำเลยได้
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.