คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะไห้ผู้ไห้ถ้อยคำสาบานหรือปติญานตนเสียก่อนหรือไม่ไนการสอบสวนนั้น เปนอำนาดของพนักงานสอบสวน ฉนั้นแม้จะไม่ไห้สาบานหรือปติญานตนก็ไม่ทำไห้การสอบสวนเสียไป
การที่พนักงานสอบสวนเรียกผู้ไห้ถ้อยคำมาแล้วอ่านถ้อยคำที่นายตำหรวดผู้อื่นได้ถามและจดไว้ไห้ฟังและสอบถามผู้ไห้ถ้อยคำเพื่อไห้รับรอง และสอบถามเพิ่มเติมนั้น ถือได้ว่าเปนการสอบสวนที่ถูกต้อง

ย่อยาว

คดีนี้โจทฟ้องหาว่าจำเลยลักเล่นการพนัน+โดยไม่ได้รับอนุญาต สาลชั้นต้นและสาลอุธรน์พิพากสาต้องกันไห้ลงโทสจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ส. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒
จำเลยดีกาไนเรื่องสอบสวน
สาลดีกาวินิฉัยว่า ที่จำเลยอ้างว่า ผู้มีอำนาดทำการสอบสวนต้องลงมือทำการสอบสวนเองและก่อนที่จะลงมือสอบสวนต้องไห้สาบานหรือปติญานตัวเสียก่อนนั้น การที่จะไห้พยานสาบานหรือปติญานต์หรือไม่ ไม่สำคัน เพราะประมวนวิธีพิจารนาความอาญามาตรา ๑๓๓ วัค ๒ ไม่ได้บังคับ เปนแต่ไห้อำนาจพนักงานสอบสวนว่าจะไห้ผู้ไห้ถ้อยคำสาบานหรือปติญานตัวเสียก่อนก็ได้ ส่วนการที่ ร.ด.ต. อุดม (ซึ่งเปนผู้มีอำนาดทำการสอบสวน) ได้เรียกไห้ผู้ไห้ถ้อยคำมาแล้วอ่านถ้อยคำที่ ร.ด.ต. สวัสดิ์ได้จดไว้และสอบถามเพิ่มเติมนั้น จะเรียกว่าไม่เปนการสอบสวนนั้นไม่ได้ เพราะไม่มีกดหมายห้าม ร.ด.ต. อุดมมิได้ถือเอาบันทึกที่ ร.ด.ต. สวัสดิ์จดไว้โดยลำพัง แต่ได้เรียกไห้ผู้ไห้ถ้อยคำมาสอบถามอีกเพื่อให้รับรองและทั้งได้สอบถามเพิ่มเติม สาลดีกาเห็นว่าเปนการสอบสวนถูกต้องตรงตามความประสงค์ของประมวนวิธีพิจารนาความอาญามาตรา ๑๓๓ และ ๑๓๙ แล้ว จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.

Share