แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ขอแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับเลขโฉนดที่ดินที่ต้องบังคับจำนองตามคำพิพากษาจากโฉนดเลขที่ 137814 เป็น 137818 เนื่องจากเจ้าหน้าที่โจทก์พิมพ์เลขโฉนดที่ดินดังกล่าวในสัญญาจำนองผิดพลาด เพราะหมายเลขโฉนดที่ดินเขียนด้วยเลขไทย ไม่สามารถอ่านได้ชัดเจนว่าเป็นโฉนดเลขที่ 137814 หรือ 137818 แต่ในสัญญาจำนองที่ดิน และหนังสือสัญญาต่อท้ายหนังสือสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกัน ระบุระวางของที่ดิน เลขที่ดิน หน้าสำรวจ ตรงกับโฉนดที่ดิน ซึ่งโจทก์ได้ถ่ายสำเนาเอกสารดังกล่าวแนบท้ายฟ้อง ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง ศาลย่อมมีอำนาจบังคับจำนองแก่ที่ดินตามโฉนดเลขที่ที่ถูกต้องได้ โดยไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษาและไม่เป็นการแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ อันเป็นผลทำให้คำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป เพราะเป็นเพียงการเพิ่มเติมในรายละเอียดให้ชัดเจนถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ 1,048,991.13 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปี นับจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2540) จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น หากไม่ชำระหนี้ให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 137814 ตำบลคลองถนน อำเภอบางเขน กรุงเทพมหานคร ที่จำนองขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ ถ้าได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 1 ขายทอดตลาดชำระหนี้จนครบถ้วน ให้จำเลยทั้งสองชำระเงินแก่โจทก์ 629,562.86 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ของต้นเงิน 417,907.19 บาท นับจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2540) จนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น หากไม่ชำระหนี้ ให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 134368 และ 137880 ตำบลคลองถนน อำเภอบางเขน กรุงเทพมหานคร ที่จำนองขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ ถ้าได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 2 ขายทอดตลาดชำระหนี้จนครบถ้วน กับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ กำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท ต่อมาในชั้นบังคับคดี โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำพิพากษา อ้างว่าโจทก์ไม่สามารถยึดทรัพย์จำนองได้ เนื่องจากเลขโฉนดเลขที่ 137814 นั้นผิดพลาด ความจริงที่ดินดังกล่าวโฉนดเลขที่ 137818 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าศาลพิพากษาให้บังคับจำนองที่ดินตรงตามที่โจทก์บรรยายฟ้องถูกต้องแล้ว ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับเลขที่โฉนดที่ดินที่ต้องบังคับจำนองตามคำพิพากษาโดยขอแก้ไขจากโฉนดที่ดินเลขที่ 137814 เป็น 137818 เนื่องจากขณะทำสัญญากันนั้นเจ้าหน้าที่โจทก์พิมพ์เลขโฉนดที่ดินดังกล่าวผิดพลาด แต่ในหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน และหนังสือสัญญาต่อท้ายหนังสือสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกัน ได้ระบุระวางของที่ดิน เลขที่ดิน หน้าสำรวจ ตรงกับในโฉนดที่ดิน และโจทก์ได้ถ่ายสำเนาเอกสารดังกล่าวแนบท้ายฟ้องด้วย ดังนี้ กรณีจึงอาจเป็นไปตามฎีกาของโจทก์ว่า ที่ดินที่จำเลยที่ 1 จดทะเบียนจำนองในคดีนี้คือที่ดินโฉนดเลขที่ 137818 เพราะได้มีการระบุระวางของที่ดิน เลขที่ดิน หน้าสำรวจ ในหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน และหนังสือสัญญาต่อท้ายหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน เป็นประกันตรงกับโฉนดที่ดินเลขที่ 137818 ซึ่งเป็นการระบุให้ทราบว่า จำนองที่ดินแปลงใด และโจทก์ได้แนบเอกสารดังกล่าวมาท้ายฟ้อง ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องด้วย ศาลย่อมจะมีอำนาจบังคับจำนองแก่ที่ดินที่จำนองตามโฉนดเลขที่ที่ถูกต้องได้ โดยไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษา และไม่เป็นการแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เป็นสาระสำคัญอันเป็นผลทำให้คำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป เพราะการขอแก้ไขเลขที่โฉนดที่ดินดังกล่าวเป็นเพียงการเพิ่มเติมในรายละเอียดให้ชัดเจนถูกต้องตรงตามความเป็นจริง แม้จะอยู่ในชั้นบังคับคดี แต่เมื่อมิได้เป็นการเปลี่ยนแปลงผลของคำพิพากษา หรือเป็นการบังคับคดีนอกเหนือไปจากคำพิพากษาก็ย่อมขอแก้ไขให้ถูกต้องได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับให้แก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นจากข้อความเดิม ที่ดินโฉนดเลขที่ 137814 เป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 137818 ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลในส่วนนี้ให้เป็นพับ.