แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดฐานมีสินค้าควบคุมไว้ในความครอบครองเกินจำนวนหรือปริมาณที่กำหนด และนำเข้ามาในเขตควบคุมนั้น เกิดขึ้นเพราะจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการหรือผู้ซึ่งผู้อำนวยการมอบหมายเท่านั้น สินค้ากับรถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินมีไว้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา32 หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือที่ได้มาโดยการกระทำผิดซึ่งศาลจะพึงมีอำนาจสั่งให้ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีบุหรี่จำนวน ๗,๕๐๐ ซอง ผ้าสีต่าง ๆ จำนวน ๑,๖๐๒ เมตร อันเป็นสินค้าควบคุมในเขตอำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี อันเป็นเขตควบคุม ไว้ในความครอบครองเกินจำนวนและปริมาณตามที่ประกาศห้ามไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการ หรือผู้ซึ่งอำนวยการมอบหมาย กับใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน น.๓๓๓๑ ปราจีนบุรีบรรทุกสินค้าดังกล่าวเข้ามาในเขตอำเภอตาพระยา จังหวัดปราจีนบุรี ขอให้ลงโทษตามพระราชกำหนดควบคุมสินค้าตามชายแดน พ.ศ. ๒๕๒๔ ฯลฯ ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชกำหนดควบคุมสินค้าตามชายแดน พ.ศ. ๒๕๒๔ ฯลฯ ลงโทษจำคุก และริบของกลางทั้งหมด
จำเลยอุทธรณ์ขอให้คืนของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบของกลางและให้คืนแก่เจ้าของ
โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลางทั้งหมด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพระราชกำหนดควบคุมสินค้าตามชายแดนมิได้บัญญัติให้มีการริบของกลางไว้โดยเฉพาะ ที่โจทก์ฎีกาว่าต้องใช้ประมวลกฎหมายอาญาซึ่งเป็นแม่บททั่วไปเพื่อริบของกลางนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่เห็นว่า ความผิดในกรณีนี้เกิดขึ้นเพราะจำเลยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้อำนวยการหรือผู้ซึ่งผู้อำนวยการมอบหมายเท่านั้น สินค้ากับรถยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ หรือเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดหรือที่ได้มาโดยการกระทำผิดซึ่งศาลจะพึงมีอำนาจสั่งให้ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ ที่ศาลอุทธรณ์สั่งไม่ริบของกลาง และให้คืนของกลางแก่เจ้าของไปนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน