คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 613/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อำนาจอธิบดีผู้พิพากษาและข้าหลวงยุตติธรรมในการสั่งคำร้องในเรื่องที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ในคดี+สาเร่นั้นต้องเป็นคำร้องขอให้อธิบดีผู้พิพากษาหรือข้าหลวงวินิจฉัยอุทธรณ์ว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงหรือไม่เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องเถียงว่าไม่ใช่คดีมโนสาเร่ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์ต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสังต่อ ศาลอุทธรณ์ภายใน 10 วัน นับแต่วันศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ไม่ใช่ตั้งแต่วันอธิบดีหรือข้าหลวงยกคำร้อง

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นตัดสิยกฟ้องโจทก์ในคดีที่หาว่าจำเลยตัดต้นไม้ในที่ดินของโจทก์เรียกค่าเสียหาย ๒๔ บาท โจทก์อุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๔๗๘ ว่าคดีนี้เรียกค่าเสียหาย ๒๔ บาท และเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อกฎหมายอุทธรณ์ไม่ได้ ไม่รับอุทธรณ์โจทก์กลับยื่นคำร้องต่อข้าหลวงยุตติธรรมขอให้ข้าหลวงมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องอุทธรณ์ส่งขึ้นไปยังศาลอุทธรณ์ ข้าหลวงยุตติธรรมสั่งว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีมโนสาเร่ที่อนุญาตให้อุทธรณ์ได้ โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์ของโจทก์ต่อไป
ศาลอุทธรณ์สั่งว่าคำร้องอุทธรณ์คำสั่งยื่นเมื่อพ้นกำหนด ๑๐ วันนับแต่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์ จึงให้ยกเสีย
ศาลฎีกาเห็นว่ามาตรา ๒๓๐ วรรค ๓ ต้องเป็นคำร้องขอให้ข้าหลวงยุตติธรรมวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องคัดค้าน คำสั่งศาลชั้นต้นว่าคดีนั้นไม่ใช่คดีมโนสาเร่ เมื่อศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์โจทก์ในคดีนี้ชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์ว่าไม่ใช่คดีมโนสาเร่ เมื่อโจทก์มายื่นคำร้องภายหลังเกินกว่า ๑๐ วันตามมาตรา ๒๓๔ แล้วจึงเกินกำหนดพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share