คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6110/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่โจทก์ซึ่งแม้จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของลูกหนี้ผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก็ตาม จะได้รับชำระหนี้นั้น จะต้องบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โจทก์จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินประกันการขอทุเลาการบังคับที่จำเลยวางไว้ต่อศาลซึ่งยังเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่มาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายล้มละลายดังกล่าวหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ค่าภาษีบำรุงท้องที่และเงินเพิ่ม ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ค่าภาษีบำรุงท้องที่จำนวน 2,089.15 บาท พร้อมเงินเพิ่มจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่าหนี้ค่าภาษีรายนี้เป็นค่าภาษีบำรุงท้องที่ ปี พ.ศ. 2531 ได้เกิดขึ้นภายหลังที่บริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลก จำกัด ลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว การที่โจทก์จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในเวลาตามที่พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 กำหนดไว้ย่อมทำไม่ได้ และการเกิดหนี้ขึ้นโดยผลของกฎหมายเช่นนี้เป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องดำเนินการแทนบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลก จำกัด ลูกหนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกี่ยวกับหนี้ค่าภาษีรายนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องให้รับผิดได้ ส่วนโจทก์จะได้รับชำระหนี้อย่างไรเป็นเรื่องของชั้นบังคับคดี ไม่ใช่เป็นกรณีที่จะนำมาอ้างว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายืน
โจทก์ยื่นคำร้องว่า เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางได้ยื่นคำขอทุเลาการบังคับคดีด้วยแล้วได้นำเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน 3,017.67 บาท มาวางตามคำสั่งของศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลภาษีอากรกลางแล้ว และศาลภาษีอากรกลางออกคำบังคับแจ้งให้จำเลยทราบ จำเลยไม่ชำระหนี้ ศาลภาษีอากรกลางจึงออกหมายบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขอให้ศาลภาษีอากรกลางส่งเงินที่จำเลยวางประกันนั้นไปยังกรมบังคับคดี แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้ส่งเงินนี้ชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาโดยอ้างว่ามูลหนี้คดีนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์เฉลิมโลก จำกัด ลูกหนี้ เด็ดขาด ไม่อาจใช้ยันกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ โจทก์ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 และขณะนี้โจทก์จำเลยกำลังมีคดีพิพาทในชั้นบังคับคดีในประเด็นดังกล่าว จึงของดการจ่ายเงินไว้ก่อนนั้น เป็นการงดการบังคับคดีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 ขอให้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินจำนวนที่ได้รับตามหมายบังคับคดีมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์
ในวันนัดพร้อม เจ้าพนักงานบังคับคดีและจำเลยแถลงคัดค้านว่าที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยอมจ่ายเงินให้โจทก์เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จะต้องดำเนินการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเจ้าพนักงานบังคับคดีจะจ่ายเงินได้ก็ต่อเมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาล ขอให้ยกคำร้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินให้โจทก์รับไปตามคำพิพากษาศาลฎีกา
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหามีว่า โจทก์จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินประกันการขอทุเลาการบังคับที่จำเลยวางไว้ต่อศาลมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ได้หรือไม่ เห็นว่า การที่โจทก์ซึ่งแม้จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของลูกหนี้ผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก็ตามจะได้รับชำระหนี้นั้น จะต้องบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โจทก์จะขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินประกันการขอทุเลาการบังคับที่จำเลยวางไว้ต่อศาลซึ่งยังเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่มาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายล้มละลายดังกล่าวหาได้ไม่ โจทก์ไม่อาจขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีนำเงินประกันการขอทุเลาการบังคับจำเลยวางไว้ต่อศาลมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ในคดีนี้ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share