แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีดำนั้น หากการพิจารณาในศาลชั้นต้นจำเลยไม่ได้ให้การรับให้ได้ความปรากฏว่าจำเลยในคดีหลังเป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยในคดีที่ขอให้นับโทษต่อดังนี้ ศาลนับโทษต่อให้มิได้
ย่อยาว
ปัญหาสู่ศาลฎีกาเฉพาะการนับโทษต่อ ซึ่งโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำผิดฐานปล้นทรัพย์ เคยต้องโทษมาแล้วไม่เข็ดหลาบและเคยถูกส่งไปกักกัน ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตามก.ม.ลักษณะอาญา และ พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย ขอให้นับโทษต่อจากคดีแดงที่ ๗๐๑/๒๔๙๑ และคดีดำที่ ๗๖๔/๒๔๙๑ จำเลยปฏิเสธฐานปล้นทรัพย์รับในข้อเคยต้องโทษและเคยถูกส่งไปกักกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ๑๖ ปี โดยเพิ่มโทษ ๑ ใน ๓ แล้ว นับต่อจากคดีแดงที่ ๗๐๑/๒๔๙๑ เมื่อพ้นโทษแล้วให้ส่งไปกักกัน ๔ ปี
โจทก์อุทธรณ์ขอให้นับโทษต่อจากคดีดำที่ ๗๐๔/๒๔๙๑ ด้วย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โทษโดยคำพิพากษาจึงจะให้นับต่อได้ จะนับต่อจากคดีความหาได้ไม่
โจกท์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การพิจารณาในศาลชั้นต้นจำเลยในคดีดำที่ ๗๐๔/๒๔๙๑ จะเป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยในคดีนี้หรือไม่ไม่ปรากฏ จริงอยู่ฟ้องกล่าวว่าจำเลยเป็นคน ๆ เดียวกับคดีดำที่ ๗๐๔/๒๔๙๑ แต่ข้อนี้จำลเยไม่ได้ให้การรับ คงรับแต่เพียงว่าจำเลยเคยต้องโทษและเคยถูกส่งไปกักกันจริงตามฟ้อง จึงนับโทษต่อมิได้
พิพากษายืน
