คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6101/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติ ญญัติยาเสพติดให้โทษบัญญัติให้เฮโรอีนกับกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษคนละประเภทกัน ทั้งบทกำหนดโทษในการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษทั้ง 2 ชนิดก็เป็นคนละมาตรากันด้วย แสดงว่ากฎหมายมุ่งประสงค์จะลงโทษผู้กระทำผิดแยกต่างหากจากกัน การที่จำเลยจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทเฮโรอีนและกัญชาไปในคราวเดียวกันจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนกับกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนกับกัญชาดังกล่าวให้บุคคลอื่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 8, 15, 26, 66, 75, 76 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66, 75ให้ลงโทษตามมาตรา 66 ซึ่งเป็นบทหนักจำคุกคนละ 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ความผิดฐานจำหน่ายกัญชาจำคุกคนละ 2 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกคนละ1 ปี 4 เดือน รวมโทษจำคุกจำเลยคนละ 4 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า “ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษได้บัญญัติให้ยาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอีนกับกัญชาเป็นคนละประเภทกัน โดยเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษจัดอยู่ในประเภท 1ส่วนกัญชาจัดอยู่ในประเภท 5 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2(พ.ศ. 2522) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 8(1)ทั้งบทกำหนดโทษในการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวก็เป็นคนละมาตรากัน แสดงว่ากฎหมายมุ่งประสงค์จะลงโทษ ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษแต่ละประเภทแยกต่างหากจากกันดังนั้นแม้จำเลยจะรวมจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทเฮโรอีนและกัญชาไปในคราวเดียวกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน”
พิพากษายืน

Share