คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากราชการฐานผิดวินัยแต่การสั่งตั้งกรรมการพิจารณาโทษที่ให้ปลดโจทก์ออกจากราชการนั้นเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายดังนี้ กรณีเป็นเรื่องละเมิดสิทธิในการรับราชการของโจทก์ หาใช่เป็นเรื่องผิดสัญญาจ้างแรงงานไม่ฉะนั้น การที่โจทก์จะฟ้องเรียกเงินเดือนที่ไม่ได้รับในระหว่างถูกปลดจากราชการย่อมต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 448 จะใช้อายุความ 5 ปี ตามมาตรา 166 หาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ขณะที่โจทก์เป็นนายอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาทจำเลยที่ 1 เสนอให้จำเลยที่ 2 มีคำสั่งปลดโจทก์ออกจากตำแหน่งหน้าที่หาว่าโจทก์กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2485 จำเลยที่ 2 จึงมีคำสั่งปลดโจทก์ตามคำสั่งที่ 276/2494 เป็นผลให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2493 โจทก์ได้ยื่นเรื่องราวร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการเรื่องราวร้องทุกข์คณะกรรมการเรื่องราวร้องทุกข์วินิจฉัยว่า คำสั่งของจำเลยที่ 2 ที่ให้ปลดโจทก์นั้นไม่ชอบ จำเลยที่ 2 จึงมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งที่ 276/2494 นั้นเสีย และสั่งให้โจทก์กลับเข้ารับราชการใหม่ในตำแหน่งนายอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตรตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. 2496 รวมเวลาที่โจทก์ถูกพักราชการ 3 ปี23 วัน โดยไม่รับเงินเดือนและเงินเพิ่มที่โจทก์มีสิทธิควรได้ซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดจ่ายให้ 36,204.04 บาท จึงขอให้บังคับจำเลยร่วมกันรับผิดชำระเงินจำนวนนี้แก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสองให้การว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินเดือนในระหว่างปลดออกจากราชการกับตัดฟ้องว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องโจทก์เป็นการเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 โจทก์ฟ้องเมื่อเวลาล่วงเลย 1 ปีแล้ว คดีโจทก์ย่อมขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่มีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งทำความเห็นแย้ง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การเข้ารับราชการพลเรือนของรัฐบาลนั้นได้มีกฎหมายคือ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนฯ กำหนดวิธีปฏิบัติการต่าง ๆ ไว้ เช่น การบรรจุข้าราชการออกจากตำแหน่งของข้าราชการ วินัย และการลงโทษข้าราชการไว้เป็นพิเศษ ไม่ใช่เป็นสัญญาจ้างแรงงานโดยทั่ว ๆ ไป ฉะนั้น ในเรื่องของข้าราชการจึงจะนำความในลักษณะจ้างแรงงานแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยถือว่ารัฐบาลเป็นนายจ้างข้าราชการเป็นลูกจ้างหาได้ไม่ ความผูกพันระหว่างส่วนราชการกับข้าราชการในสังกัดย่อมต้องถือหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนเป็นประมาณการที่กระทรวงมหาดไทยสั่งปลดออกจากราชการฐานผิดวินัยและได้ความว่าการสั่งตั้งกรรมการพิจารณาโทษที่ให้ปลดโจทก์จากราชการนั้นเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็เข้าลักษณะละเมิดสิทธิในการรับราชการของโจทก์ ไม่ใช่ผิดสัญญาจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โจทก์จึงจะฟ้องเรียกเงินเดือนที่ไม่ได้รับในระหว่างถูกปลดจากราชการโดยอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 166 หาได้ไม่ หากโจทก์เห็นว่าคำสั่งของจำเลยที่ 2 ที่สั่งปลดโจทก์ออกจากราชการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์เสียหายประการใดแล้วก็พึงฟ้องร้องต่อศาลภายในกำหนดอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 ฐานจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ ปรากฏว่าโจทก์ทราบคำสั่ง ร.ม.ต. ว่าการกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค. 2496 ว่าคำสั่งที่ปลดโจทก์ออกจากราชการไม่มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย ให้ยกเลิกคำสั่งนั้นเสียแล้วให้โจทก์กลับเข้ารับราชการตามเดิม เมื่อโจทก์เพิ่งฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2501 คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ฯลฯ พิพากษายืน

Share