คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6093/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาเป็นวิธีการตาม ป.วิ.พ. มาตรา 254(1) มิใช่เป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการบังคับคดีโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้ยึดหรืออายัดซ้ำตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290 บทบัญญัติใน ป.วิ.พ.ลักษณะ 2 แห่งภาค 4 ว่าด้วยการบังคับคดีที่มาตรา 259 ให้นำมาใช้บังคับแก่วิธีการชั่วคราวนั้นหา รวมถึงบทบัญญัติมาตรา 290 ไม่.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ได้นำยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ต่อมาสรรพากรกรุงเทพมหานครได้อายัดทรัพย์สินรายดังกล่าว จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า การที่สรรพากรกรุงเทพมหานครอายัดทรัพย์สินของจำเลยเป็นการอายัดซ้ำ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ขอให้มีคำสั่งให้สรรพากรกรุงเทพมหานครยกเลิกหรือเพิกถอนการอายัดทรัพย์สินของจำเลยเสีย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การยึดทรัพย์สินรายนี้เป็นวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(1)มิใช่เป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการบังคับคดีโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้ยึดหรืออายัดซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 บทบัญญัติในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งลักษณะ 2 แห่ง ภาค 4 ว่าด้วยการบังคับคดีที่มาตรา 259ให้นำมาใช้บังคับแก่วิธีการชั่วคราวนั้น หารวมถึงบทบัญญัติมาตรา 290นี้ไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share