คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สแบ่งส่วนใหญ่ออกเป็นสองส่วน คือส่วนถังแก๊สกับส่วนตะเกียงซึ่งต่อกับถังแก๊ส จุดประสงค์เพื่อความสะดวกในการขนย้ายไปใช้ในที่ซึ่งไม่มีไฟฟ้าเพราะตะเกียงนี้ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สจึงมีลักษณะเป็นเครื่องใช้อย่างหนึ่งซึ่งใช้กับแก๊สตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้า ประเภทการค้า 1 ชนิด 2(ข) หาใช่ชนิด 1(ก) ไม่
ประมวลรัษฎากร มาตรา 89(3) บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้าเสียเบี้ยปรับในกรณียื่นแบบแสดงรายการไว้ไม่ถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาด และในวรรคท้ายบัญญัติว่า เบี้ยปรับตามมาตรานี้อาจงดหรือลดลงได้ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี โจทก์มิได้กล่าวอ้างมาในฎีกาว่ากรณีของโจทก์ต้องด้วยระเบียบดังกล่าวอย่างไร จึงไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยงดเบี้ยปรับให้โจทก์ได้ และไม่ปรากฏว่ากรณีต้องด้วยเหตุที่จะงดหรือลดเงินเพิ่มตามมาตรา 89ทวิ ได้อย่างไร จึงไม่มีเหตุที่ศาลสั่งงดเงินเพิ่มให้โจทก์ได้เช่นกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้เสียภาษีการค้าในการขายสินค้าแค้มปิ้งแก๊สตามบัญชีอัตราภาษีการค้าในประมวลรัษฎรกร ประเภทการค้า 1 ชนิด 1(ก)ต่อมาเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งการประเมินให้โจทก์เสียภาษีในอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 1 ชนิด 2(ข) รวมทั้งเบี้ยปรับเงินเพิ่มและภาษีบำรุงเทศบาลโจทก์เห็นว่าเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้อุทธรณ์การประเมิน คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งยกอุทธรณ์ของโจทก์ จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการประเมินและสั่งยกเลิกการเรียกเบี้ยปรับเงินเพิ่มจากโจทก์ด้วย

จำเลยให้การว่า สินค้าแค้มปิ้งแก๊สของโจทก์เป็นสินค้าที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงอาจใช้เป็นตะเกียงและเตาหุงต้มได้ เข้าลักษณะเป็นสินค้าหรือเครื่องใช้อย่างอื่นซึ่งใช้กับแก๊สตามบัญชีอัตราภาษีการค้า ประเภทการค้า 1 ชนิด 2(ข) การประเมินชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สนี้แบ่งส่วนใหญ่ออกเป็นสองส่วนคือส่วนถังแก๊สกับส่วนตะเกียงซึ่งต่อกับถังแก๊ส ถังแก๊สมีขนาดบรรจุหลายขนาดจุดประสงค์ก็เพื่อความสะดวกในการขนย้ายไปใช้ในที่ซึ่งไม่มีไฟฟ้า เพราะตะเกียงนี้ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ศาลฎีกาเห็นว่าตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สของโจทก์ดังกล่าวนั้นมีลักษณะเป็นเครื่องใช้อย่างหนึ่งซึ่งใช้กับแก๊สตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้าในประมวลรัษฎากรประเภทการค้า 1 ชนิด 2(ข) ย่อมต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 20 ของรายรับ หาใช่สินค้าชนิด 1(ก) ดังที่โจทก์ฎีกาไม่ เพราะที่จะเข้าอยู่ในชนิด 1(ก) ได้นั้นจะต้องไม่ใช่สินค้าชนิด 2 เมื่อสินค้าตะเกียงแค้มปิ้งแก๊สของโจทก์จัดอยู่ในชนิด 2 ในฐานะที่เป็นเครื่องใช้อย่างหนึ่งซึ่งใช้กับแก๊สแล้ว จึงถือไม่ได้ว่าเป็นสินค้าในประเภทการค้า 1ชนิด 1(ก) ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

ที่โจทก์ฎีกาขอให้ศาลสั่งงดเบี้ยปรับนั้น ประมวลรัษฎากร มาตรา 89(3)บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้าเสียเบี้ยปรับในกรณียื่นแบบแสดงรายการไว้ไม่ถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาดทำให้จำนวนภาษีที่ต้องเสียคลาดเคลื่อนไปและในวรรคท้ายของมาตรา 89 นั้นเองบัญญัติว่า เบี้ยปรับตามมาตรานี้อาจงดหรือลดลงได้ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี โจทก์มิได้กล่าวอ้างมาในฎีกาเลยว่ากรณีของโจทก์ต้องด้วยระเบียบที่อธิบดีกำหนดไว้ในการงดหรือลดเบี้ยปรับได้โดยอย่างไร จึงไม่มีเหตุที่จะวินิจฉัยงดเบี้ยปรับให้โจทก์ได้

ที่โจทก์ฎีกาให้งดเงินเพิ่มนั้น ประมวลรัษฎากรมาตรา 89 ทวิ บัญญัติว่าผู้ประกอบการค้าใดไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระโดยไม่รวมเบี้ยปรับตามมาตรา 89 ในกรณีที่อธิบดีอนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาชำระภาษีและได้มีการชำระภาษีภายในกำหนดเวลาที่ขยายให้นั้น ให้ลดเงินเพิ่มลงเหลือร้อยละ 0.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน กรณีของโจทก์ไม่ปรากฏว่าด้วยเหตุที่จะงดเงินเพิ่มหรือลดเงินเพิ่มตามมาตรา 89 ทวิ ดังกล่าวได้โดยอย่างไรจึงไม่มีเหตุที่ศาลสั่งงดเงินเพิ่มให้โจทก์ได้

พิพากษายืน

Share