คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ของแก้ฟ้องชื่อตำบลที่เกิเหตุ ซึ่งข้อเท็จจริงในทางพิจารณามิได้โต้เถียงกัน ถึงเรื่องสถานที่เกิดเหตุแล้ว แม้โจทก์จะขอแก้เมื่อสืบพยานเสร็จแล้ว ศาลก็อนุญาตให้แก้ได้ โดยเห็นว่าจำเลยไม่หลงหรือเสียเปรียบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันนำของต้องห้ามออกนอกราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยปฏิเสธ เมื่อสืบพยานเสร็จแล้ว โจทก์ของแก้ฟ้องชื่อตำบลที่เกิดเหตุที่ว่าตำบลในเมืองเป็นตำบลอาษมารถ ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ จึงอนุญาตให้โจทก์แก้ไขได้ พิพากษาจำคุก จำเลยคนละ ๒ เดือนและให้เสียสินบลและรางวัล
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้ ไม่ชอบที่จะอนุญาตให้โจทก์แก้ เมื่อแก้ไม่ได้ ข้อเท็จจริงในฟ้องก็ต่างกับทางพิจารณาตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. ๑๙๒ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในเรื่องสถานที่เกิดเหตุทางพิจารณาคงได้ความต้องกันตามที่โจทก์จำเลยนำสืบ มิได้มีการโต้แย้งเรื่องสาถนที่เลย ที่โจทก์ขอแก้ฟ้อง ก็เพียงแต่ว่าตรงท่าน้ำบ้านยายกงที่จำเลยบรรทุกของกลางออกเรือมาถูกจับที่กลางแม้น้ำนั้น มีชื่อว่าตำบลในเมืองหรือตำบลอาษมารถเท่าน้น จึงไม่ทำให้จำเลยหลงหรือเสียเปรียบ เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้แก้ได้
พิพากษากลับให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาในประเด็นอื่นต่อปีแล้วพิพากษาให้

Share