คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 606/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เอกสารจำนองที่ดิน โจทก์นำสืบพยานบุคคลได้ว่าจำเลยจะขายที่ดินแก่โจทก์ จำเลยรับเงินราคาไปบางส่วนแล้ว จำเลยจำนองที่ดินนั้นแก่โจทก์เป็นประกันเงินที่รับไป

ย่อยาว

จำเลยจะขายที่ดินแก่โจทก์ รับเงินจากโจทก์ไปบางส่วน จำเลยจำนองที่ดินนั้นแก่โจท์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดิน โดยไม่รวมถึงที่ดินตามคำมั่นจะขายซึ่งสิ้นอายุไปแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำมั่นยังไม่สิ้นอายุพิพากษาแก้ ให้จำเลยโอนที่ดินส่วนที่อยู่ในคำมั่นด้วย จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อแรกจำเลยฎีกาว่าสัญญาจำนองฉบับลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2500 เป็นสัญญาจำนองที่ดินกัน มิใช่เป็นการชำระหนี้ค่าที่ดินกัน โดยจำเลยอ้างทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงสนับสนุน

ข้อกฎหมายจำเลยอ้างว่า สัญญาจำนองฉบับลงวันที่ 27 พฤษภาคม2500 ระบุชัดว่าเป็นการจำนองที่ดิน การที่โจทก์นำสืบว่า เงินที่จดทะเบียนรับจำนองไว้นั้นเป็นการชำระค่าที่ดินที่โจทก์ซื้อไว้จากจำเลยบางส่วนนั้น เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขพยานเอกสาร ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เอกสารหมาย จ.6 ถึง จ.15 ส่วนมากระบุว่าเป็นเงินยืมแต่โจทก์นำสืบว่า เป็นการชำระค่าที่ดิน ก็เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขพยานเอกสารเช่นกัน

ศาลฎีกาเห็นว่า การนำสืบของโจทก์ดังกล่าวเป็นการนำสืบถึงข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากสัญญาจำนองและเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมว่า โจทก์จำเลยได้ตกลงชำระราคาที่ดินที่จะซื้อขายกันอย่างไร ไม่กระทบกระเทือนถึงพยานเอกสารเหล่านั้น ข้อความในสัญญาจำนองและเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมมีอยู่อย่างไรก็คงเป็นอยู่อย่างนั้น หาใช่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขพยานเอกสารดังจำเลยอ้างไม่”

พิพากษายืน

Share