แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยและพวกรวม 6 คน มีมีดเป็นสาตราวุธบุกรุกขึ้นเรือนเจ้าทรัพย์อย่างโครมครามในเวลาดึก ประมาณ 23.00 น.และตีฝาปึงปัง จนเพื่อนบ้าน ก็ได้ยิน ภริยาเจ้าทรัพย์กลัวต้องหนีไป การกระทำของจำเลยกับพวกทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย จำเลยย่อมมีความผิดฐานปล้นทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกับพวก กระทำการปล้นทรัพย์นายร่มไป ขอให้ลงโทษ และให้คืนหรือใ่ช้ราคาทรัพย์จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ๑๐ ปี ตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยกับพวกได้ใช้กำลังทำร้ายผู้ใด หรือขู่เข็ญจะทำร้ายผู้ใด หรือขู่เข็ญจะทำร้ายผู้ใด ไม่มีผิดฐานปล้นทรัพย์ ควรมีผิดฐานลักทรัพย์ พิพากษาแก้ให้จำคุก ๕ ปีตามมาตรา ๒๙๕
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีได้ความชัดว่าผู้ร้ายรวม ๖ คน มีมีดเป็นสาตราวุธบุรุกขึ้นบนเรือนของเจ้าทรัพย์อย่างโครมครามในเวลาดึกประมาณ ๒๓.๐๐ น. และตีฝาปึงปังจนเพื่อนบ้านก็ได้ยิน ภริยาเจ้าทรัพย์กลัวต้องหนีไปการกระทำของจำเลยกับพวก แสดงให้เห็นว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้าย เป็นลักษณะของผู้ร้ายปล้นทรัพย์อย่างชัดแจ้ง
พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น